เวอร์กิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังสุดแกร่งทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ยกยกความมุ่งมั่นของเพือนร่วมทีม ที่สามารถบุกเสมอเยอรมนี 2-2 ในศึกยูฟ่า เนชั่นส์ลีก กลุ่ม 1 ลีกเอ ที่สนามเฟลตินส์ อารีน่า ปนระเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเกิดสามารถเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้ต่อไป
สำหรับเกมนี้เยอรมนี เป็นฝ่ายทำได้ดีกว่าในช่วงแรก เมื่อออกนำไปก่อน 2-0 จาก ติโม แวร์เนอร์ นาทีที่ 9 และเลรอย ซาเน่ นาทีที่ 20 ทว่าครึ่งหลังทั้ง 2 ทีม กลับมาสู้กันอย่างสูสี จนมาถึงช่วงท้ายเกมนาทีที่ 85 กังหันลมมาตีไข่แตกไล่มา 1-2 จากควินซี่ โปรเมส จากนั้นฟาน ไดค์ ผู้รับหน้าที่เป็นกัปตันทีม “อัศวินสีส้ม” สวมบทฮีโร่ตวัดยิงในกรอบเขตโทษ เป็นประตูให้บ้านเกิดไล่ตีเสมอ “อินทรีเหล็ก” 2-2 ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+1 ก่อนที่จะจบเกมด้วยสกอร์ดังกล่าว
จบเกมนี้ ส่งผลให้เนเธอร์แลนด์าคว้า 1 คะแนนสำคัญ รวมมี 7 คะแนน จากการเตะ 4 นัด แซงฝรั่งเศสที่มีแต้มเท่ากัน เนื่องจากมีเฮดทูเฮดและประตูได้เสียที่ดีกว่า (+4) ขึ้นไปจบแชมป์กลุ่ม และผ่านเข้าไปเล่นรอบรองชนะเลิศศึกเนชั่นส์ ลีก ซึ่งจะมีการฟาดแข้งอีกครั้งในปีหน้าที่โปรตุเกส ร่วมกับอังกฤษ, สวิตเซอร์แลนด์ และโปรตุเกส ส่วนเยอรมนี จบบ๊วย เตะ 4 นัด มี 2 แต้ม
“เกมนี้ถือเป็นงานที่ยากมากๆ เกมหนึ่ง เพราะเยอรมนี เป็นทีมที่เฉียบคม และรวดเร็วมากในครึ่งแรก แต่พวกเราก็สามารถยืนหยัดต่อสู้และกลับสู่เกมได้สำเร็จ ถือเป็นความรู้สึกที่มหัศจรรย์ เราควรภูมิใจในตัวเอง ที่ผ่านมาเราทำงานกันอย่างหนักมาตลอด และการได้รับรางวัลตอบแทนเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมจริงๆ” ฟานไดค์ เปิดใจ
ก่อนหน้านี้เนเธอร์แลนด์ ต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อไม่สามารถผ่านรอบคัดเลือก เพื่อเข้าสู่รอบสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ใหญ่ได้ถึง 2 รายการ ประกอบด้วย ศึกฟุตบอลยูโร 2016 และ ฟุตบอลโลก 2018
ปราการหลังจากลิเวอร์พูลกล่าวอีกว่า หากเราคว้าแชมป์เนชั่นส์ ลีก ย่อมเป็นเรื่องวิเศษมาก แต่เราต้องทำให้แน่ใจด้วยว่า เนเธอร์แลนด์ได้สิทธิเข้าไปเล่นในฟุตบอลยุโรปครั้งหน้าด้วยเช่นกัน เพราะการทำผลงานที่ดีคือสิ่งที่ทำให้ทุกคนในประเทศภูมิใจ
