คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองหน้าตัวเก่งของทีมชาติโปรตุเกส โชว์ผลงานการจบสกอร์สุดเฉียบคม ซัดคนเดียว 4 ประตูในเกมที่โปรตุเกสบุกถล่มลิทัวเนียขาดลอย 5-1 ในศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบคัดเลือก กลุ่มบี เมื่อคืนวันที่ 10 กันยายน
สำหรับเกมนี้โรนัลโด้ระเบิดฟอร์มซัลโวตาข่ายในนาทีที่ 7 (จุดโทษ), 61, 65 และ 76 ก่อนที่วิลเลียม คาร์วัลโญ่ จะกดประตูปิดท้ายในนาทีที่ 90+2 ช่วยให้โปรตุเกสเก็บเพิ่มอีก 3 คะแนน รวมเป็น 8 คะแนน จากผลงานชนะ 2 เสมอ 2 รั้งอันดับ 2 ในกลุ่มบี ตามหลังยูเครนที่แข่งมากกว่า 1 นัด อยู่ 5 คะแนน และนำอันดับ 3 อย่างเซอร์เบียที่แข่งเยอะกว่า 1 นัด อยู่ 1 แต้ม
สำหรับ 4 ประตูที่โรนัลโด้ยิงได้นั้น ทำให้เขากลายเป็นนักเตะยุโรปคนแรกที่ยิงประตูในนามทีมชาติทะลุ 90 ลูก และยังเป็นนักเตะที่ทำประตูมากที่สุดตลอดกาล ของศึกฟุตบอลยูโร รอบคัดเลือก ด้วยผลงาน 25 ประตู ทุบสถิติเดิมของร็อบบี้ คีน อดีตหัวหอกของสาธารณรัฐไอร์แลนด์ที่เคยทำไว้มากสุด 23 ประตู นอกจากนี้ยังเป็นการซัดแฮตทริกครั้งที่ 54 ในชีวิตการค้าแข้งของโรนัลโด้อีกด้วย โดยแบ่งเป็น 8 ครั้งในนามทีมชาติและอีก 46 ครั้งในการค้าแข้งกับสโมสรต่างๆ
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
โรนัลโด้เปิดใจว่า มีความสุขมากๆ กับโมเมนต์ดีๆ ในเกมนี้ ไม่ใช่เพราะตนสามารถยิงประตูได้หรอกนะ แต่เป็นมาตรฐานของโปรตุเกสที่ทำได้ดีขึ้นอย่างมากในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา และตัวเองก็หวังจะช่วยทีมชาติทำผลงานเจ๋งๆ ต่อไป ส่วนสิ่งที่ยากที่สุดในสัปดาห์ที่ผ่านมา คือการบุกเอาชนะเซอร์เบีย 4-2 (คืนวันที่ 7 กันยายน) ซึ่งสิ่งสำคัญคือการรักษาโมเมนตัมและเก็บชัยชนะให้ได้ต่อไป
ปัจจุบันโรนัลโด้ทำประตูให้กับทีมชาติบ้านเกิดไปแล้วทั้งสิ้น 93 ประตู จาก 153 นัด ซึ่งเหลืออีก 17 ประตูจะทำให้เขากลายเป็นดาวยิงที่ทำประตูในระดับทีมชาติมากที่สุดของโลกตลอดกาล (อาลี ดาอี ตำนานกองหน้าทีมชาติอิหร่านทำสถิติไว้ที่ 109 ประตูจาก 149 เกม)
โดยโปรแกรมนัดต่อไปของโปรตุเกส ในศึกยูโร 2020 รอบคัดเลือก คือการเปิดบ้านดวลกับลักเซมเบิร์ก ที่กรุงลิสบอน ในคืนวันที่ 11 ตุลาคมนี้ ก่อนบุกไปเยือนยูเครนในคืนวันที่ 14 ตุลาคม
