ลิเวอร์พูล ในฐานะแชมป์ฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เข้าไปนอนรอแบบหล่อๆ ในรอบรองชนะเลิศ ของศึกฟุตบอลสโมสรชิงแชมป์โลก “ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ” 2019 ที่จะฟาดแข้งระหว่างวันที่ 11-21 ธันวาคมนี้ที่ประเทศกาตาร์ หลังจากมีการวางโปรแกรมการแข่งขันอย่างเป็นทางการเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
โดยหงส์แดงอยู่ในการแข่งขันสายบน ซึ่งรอบแรกอัล-ซาดด์ (กาตาร์-เจ้าภาพ) จะพบกับ เฮียนเกเน่ สปอร์ต แชมป์โซนโอเชียเนีย ในวันที่ 11 ธันวาคม ซึ่งผู้ชนะจะผ่านมาดวลกับมอนเทอร์เรย์ (เม็กซิโก) แชมป์จากคอนคาเคฟ แชมเปี้ยนส์ลีกในรอบที่ 2 วันที่ 14 ธันวาคม ก่อนหาผู้ชนะมาฟาดแข้งกับลิเวอร์พูลในรอบรองชนะเลิศวันที่ 18 ธันวาคม
ขณะที่การแข่งขันสายล่าง แชมป์โกปา ลิเบอร์ตาดอเรส จากอเมริกาใต้ (ชิงแชมป์ในเดือนพฤศจิกายน) จะนอนรอในรอบรองชนะเลิศของศึกสโมสรโลกเช่นกัน โดยรอพบผู้ชนะระหว่างเอสเปรานซ์ (ตูนิเซีย) เจ้าของแชมป์ทวีปแอฟริกา หรือ สโมสรแชมป์เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีกจากทวีปเอเชีย
โดยลิเวอร์พูลจะต้องลงแข่งขัน 2 แมตช์แน่นอน คือวันที่ 18 ธันวาคม (รอบรองชนะเลิศ) กับ 21 ธันวาคมนี้ (รอบชิงชนะเลิศหรือชิงอันดับ 3) ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ลิเวอร์พูลเคยฟาดแข้งในทัวร์นาเมนต์นี้ คือการจบรองแชมป์เมื่อปี 2005 หลังพลาดท่าแพ้เซาเปาโล (บราซิล) ในรอบชิงชนะเลิศ ด้วยสกอร์ 0-1 ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น
“แม้ว่าลิเวอร์พูลจะประสบความสำเร็จตลอดช่วงหลายปีหลังมานี้ แต่พวกเขายังไม่เคยคว้าแชมป์สโมสรโลกมาก่อน ดังนั้นผมคิดว่าลิเวอร์พูลและแฟนๆ คงหวังที่จะคว้าแชมป์ในรายการนี้ให้ได้แน่ๆ” ไมเคิล โอเว่น ซึ่งเข้าร่วมพิธีการจับสลากกล่าวเปิดใจ
“Even with Liverpool’s success over many years they never won the #ClubWC, so I think ???????@LFC and the fans will really want to win this competition.”@themichaelowen expects his old side to do all they can to add a new trophy to their training ground wall.
More on the draw???
— FIFA.com (@FIFAcom) September 16, 2019
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
อย่างไรก็ตาม หากอัล-ซาดด์ จากกาตาร์เป็นแชมป์เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก พวกเขาจะได้เตะรอบ 2 ในสายล่างกับเอสเปรานซ์ทันที และขยับให้รองแชมป์เอเอฟซีจะต้องแข่งขันในรอบแรกของสายบนกับเฮียนเกเน่ สเปอร์ต ต่อไป
ทั้งนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือสโมสรเดียวจากอังกฤษที่เคยคว้าแชมป์ศึกฟุตบอลสโมสรโลก หลังจากเอาชนะแอลดียู ควิโต (เอกวาดอร์) 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศเมื่อปี 2008 ขณะที่เชลซีเคยจบรองแชมป์ เนื่องจากแพ้โครินเธียนส์ (บราซิล) 0-1 ในรอบชิงปี 2012
ICYMI: Debutants and @OFCChampsLeague winners Hienghene Sport will face @Rayados should they overcome #ClubWC hosts @AlsaddSC.
Meanwhile, ?Africa and ?Asia’s best will go head-to-head to try to earn a meeting with @TheLibertadores winners ??? pic.twitter.com/jpUzbvtYPl
— FIFA.com (@FIFAcom) September 16, 2019