โรเมลู ลูกากู กองหน้าของ “งูใหญ่” อินเตอร์ มิลาน แฉว่า การที่โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ กุนซือแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดต้องการส่งเขาลงเล่นตำแหน่งปีก เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้หอกเบลเยียมตัดสินใจแยกทางกับปีศาจแดง
ลูกากู ย้ายจากแมนฯ ยูไนเต็ด ไปอยู่กับอินเตอร์ มิลาน เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา ด้วยมูลค่า 73 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,830 ล้านบาท) หลังจากค้าแข้งให้ปีศาจแดงเป็นเวลา 2 ปี (กรกฎาคม 2017 – สิงหาคม 2019) ตะบันไป 42 ประตูกับ 13 แอสซิสต์ จากทั้งหมด 96 นัด แต่เขามักถูกโจมตีจากสไตล์การเล่นที่เชื่องช้า โดยเฉพาะการจับบอลแรกที่ลั่น จนส่งผลให้พลาดโอกาสทำเกมบุกในพื้นที่สุดท้ายบ่อยครั้ง
ขณะที่โซลชาร์ ที่เข้ามาคุมทีมแทนมูรินโญ่ตั้งแต่ปลายปี 2018 ก็เทใจไปใช้บริการกองหน้าดาวรุ่งจอมพลิ้วอย่างอ็องโตนี่ มาร์ซิยาล และมาร์คัส แรชฟอร์ด ส่งผลให้ลูกากูตัดสินใจไปหาความท้าทายใหม่ๆ ที่อิตาลีในที่สุด ล่าสุด ลูกากูเปิดเผยว่า กุนซือนอร์เวย์อยากจะจับเขาไปเล่นแนวรุกบริเวณริมเส้น
“ผมได้เรียนรู้ภาษาอิตาลีในช่วงเดียวกันกับที่จอร์แดน ลูกากู น้องชายของผมค้าแข้งกับลาซิโอ (เซ็นสัญญากลางปี 2016) ในขณะเดียวกันเมื่อผมได้ยินว่า โซลชาร์วางแผนจะจับผมไปเล่นตำแหน่งปีก นั่นทำให้รู้ว่าเวลาของผมกับแมนฯ ยูไนเต็ดมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว” ลูกากู กล่าวกับ Corriere Dello Sport สื่อในอิตาลี
ทั้งนี้ ลูกากู เปิดเผยอีกว่า ไม่ได้ใส่ใจกับการที่ย้ายทีมเป็นค่าตัวสถิติที่แพงที่สุดของสโมสร พร้อมกับการทำผลงานทดแทนเมาโร อิคาร์ดี้ ที่ย้ายไปซบ “เปแอสเช” ปารีส แซงต์แชร์แมง ซึ่งขณะที่ลูกากูเป็นรองดาวซัลโซของกัลโช่ เซเรียอา อิตาลี กับผลงาน 10 ประตู (ไม่มีแอสซิสต์) ตามหลังชิโร่ อิมโมบิเล่ กองหน้าลาซิโอ อันดับ 1 ที่ทำไป 14 ประตูกับ 5 แอสซิสต์
“คงจะเป็นเรื่องที่ดีหากสุดท้ายผมได้รางวัลดาวยิงของลีก แต่ผมไม่ใช่นักเตะประเภทที่ต้องการคว้ารางวัลส่วนตัวเหล่านี้หรอกนะ ผมคิดถึงเรื่องของสโมสรเป็นหลักอยู่แล้ว แรงจูงใจที่สำคัญที่สุดคือการช่วยทีมทำประตูให้ได้ ซึ่งในช่วงต้นของซีซั่นแรกกับทีมนี้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี แต่ผมก็จะมุ่งมั่นฝึกซ้อมอย่างหนักต่อไป ต้องการทำให้อินเตอร์รู้ว่าพวกเขาตัดสินใจได้ถูกต้องแล้วกับการเซ็นสัญญาคว้าตัวผมมาร่วมทีม” ลูกากู กล่าว
