รอฟันธงรูปแบบแข่ง ‘ซูซูกิคัพ 2020’ คาดชาติสมาชิกพอใจแบบไร้เจ้าภาพ

หลังจากที่สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน(เอเอฟเอฟ) ได้มีการปรับรุปแบบการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ” ในครั้งนี้ จากเดิมที่ให้มีเจ้าภาพ 2 ประเทศ จัดรอบแบ่งกลุ่ม 2 กลุ่ม มาเป็นให้แต่ละชาติได้ลงแข่งขันเกมเหย้า 2 นัด เกมเยือน 2 นัด โดยไม่มีเจ้าภาพ เนื่องจากต้องการให้มีผู้ชมเกมในสนามมากขึ้นนั้น

“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า เอเอฟเอฟ พยายามคิดทุกวิธีไม่ให้ใครได้เปรียบเสียเปรียบ รวมทั้งอยากให้คนดูเยอะๆ แต่เรื่องเมือง, สนามแข่ง ก็เป็นสิทธิของชาตินั้นว่าจะจัดที่ไหน อย่างฟิลิปปินส์ ไปจัดที่เมืองบาโคลอด ไม่รู้ว่ามีกระแสตอบรับเป็นอย่างไร ฝ่ายจัดพอใจขนาดไหน ส่วนตัวสงสัยว่าทำไมถึงไม่ไปจัดที่เมืองหลวงอย่างกรุงมะนิลา อย่างติมอร์ เลสเต ไม่สามารถจัดในบ้านได้ ก็มาเตะที่ไทยแล้วแบ่งค่าบัตรที่เหลือกลับไปในฐานะทีมเหย้า

ด้านนายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการ และโฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กล่าวว่า เอเอฟเอฟพยายามหาวิธีปรับระบบการแข่งเพื่อยกระดับเกมให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งในระบบใหม่ ก็หวังเพิ่มจำนวนผู้ชมให้มากขึ้น ส่วนตัวแล้วคิดว่าหลายๆ ชาติจะพอใจ เพราะมีโอกาสจัดเกมในบ้านเหมือนกันหมด เรียกแฟนบอลเข้าสนามได้มาก เช่นชาติอย่าง กัมพูชา ที่ไม่เคยเป็นเจ้าภาพ สถิติผู้ชม 2 เกมเหย้าก็ดีมาก นัดแรก 30,000 คน อีกนัด 35,000 คน อย่างไรก็ตาม สำหรับการแข่งขันในอีก 2 ปีข้างหน้า ทางเอเอฟเอฟยังไม่ได้มีมติว่าจะคงรูปแบบเดิม หรือมีรูปแบบใหม่ คาดว่าในวันรอบชิงชนะเลิศนัด 2 (15 ธันวาคม) จะมีการประชุมสมาชิกเอเอฟเอฟ ที่ชาติเจ้าภาพ วันดังกล่าวน่าจะมีการหยิบยกข้อมูล รายละเอียด ข้อดี ข้อเสียของการจัดศึกชิงแชมป์อาเซียนระบบใหม่มาพูดคุยกัน ก่อนจะตัดสินใจว่า จะใช้ระบบนี้ต่อไปหรือไม่

สำหรับรอบชิงชนะเลิศ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 นัดแรกจะแข่งขันในวันที่ 11 ธันวาคม และนัดสอง 15 ธันวาคม ทีมแชมป์รับเงินรางวัล 300,000 ดอลลาสหรัฐ (ประมาณ 9.9 ล้านบาท) พร้อมถ้วยรางวัล, รองแชมป์ 100,000 ดอลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.3 ล้านบาท)

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image