“ช้างศึก ยู21” ทีมฟุตบอลชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี มีโปรแกรมแข่งขันต่อเนื่องช่วงปลายปีนี้ ถึงต้นปีหน้า โดยเริ่มจากการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2019 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 11 ธันวาคม 2562 รายการนี้จำกัดอายุไม่เกิน 22 ปี และมีโควตาอายุเกินได้ 2 คน จากนั้นเดือนมกราคม 2563 มีการแข่งขันฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย 2020 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย คัด 3 ทีม (ไม่รวมญี่ปุ่น) ไปแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2020 ทำให้มีการตั้งคำถามว่าสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะเตรียมนักเตะใน 2 ทัวร์นาเมนต์นี้อย่างไร
“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องดูในเรื่องกลุ่มอายุ ว่าเป็นกลุ่มเดียวกันหรือไม่ ศึกเอเชียจำกัดไม่เกิน 23 ปี ก็หมายความว่าอายุน้อยกว่านั้นลงไปก็สามารถเล่นได้ และหากใช้ชุดเดียวกัน ก็ต้องดูว่าจะทำให้เป็นการเตรียมทีมที่ต่อเนื่องเลยหรือไม่ และอีกอย่างในเรื่องโค้ชจะได้ไม่มีปัญหา เพราะถ้าแยกทีมแข่ง โค้ชก็ต้องมาแย่งนักเตะกันอีก เพราะอยู่ในกลุ่มเดียวกัน
ทั้งนี้ จากการประชุมโค้ชทีมชาติไทยครั้งล่าสุด ยังไม่มีการหารือกันเรื่องนี้ ทำให้ทีโอกาสที่จะใช้นักเตะชุดเดียวกันลงแข่งขันทั้ง 2 รายการ
ด้าน “โค้ชเฮง” นายวิทยา เลาหกุล อุปนายกฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กล่าวว่า สำหรับทีมชาติไทย ชุด 23 ปี ที่ อเล็กซานเดร กามา คุมอยู่นั้น ตนมีความคิดจะตั้งโค้ชคนไทย เข้าไปเป็นผู้ช่วยของกามา เพื่อเป็นตัวกลางในการสื่อสารนักเตะ และที่สำคัญเพื่อเรียนรู้การทำทีมฟุตบอลจาก กามา ด้วย เรื่องนี้เป็นปกติของวงการฟุตบอลทั่วโลก หากมีการตั้งโค้ชต่างชาติเข้ามาคุมทีมชาติ ไม่ว่าเก่งอย่างไร 2-3 ปี ก็ต้องไป ดังนั้นสมาคมประเทศนั้นๆ จะนำโค้ชชาติตัวเองเข้าไปซึมซับ ต่อยอดการทำงานในแนวทางที่ถูกต้อง ซึ่งเรื่องนี้คงต้องคุยกับกามาถึงแนวทางดังกล่าว
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
