สยบดราม่า! กกท.ยัน ‘ราชมังคลาฯ’ ปรับปรุงทันเตะยู23ชิงแชมป์เอเชีย

จากการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ระหว่างวันที่ 8-26 มกราคม 2563 ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์คัดโควต้าโอลิมปิกเกมส์ 2020 แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปเรื่องสนามที่จะใช้แข่งขันอย่างเป็นทางการ เนื่องจากต้องหาสนามที่ตรงตามมาตรฐานที่สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย(เอเอฟซี) กำหนดไว้ ซึ่งเดิมสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้กำหนดใช้ 4 สนาม คือ ราชมังคลากีฬาสถาน, สนามกีฬาติณสูลานนท์, สนามกีฬามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต และสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ซึ่งจะต้องมีการปรับปรุงสนามให้ทันก่อนจะส่งมอบให้เอเอฟซีตรวจความพร้อมนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ไม่สามารถรองรับการแข่งขันได้แล้ว เนื่องจากไม่สามารถหาบริษัทเข้ามาปรับปรุงสนามให้แล้วเสร็จได้ทันเวลา ขณะที่ราชมังคลากีฬาสถานก็ยังไม่เริ่มปรับปรุง นอกจากนั้น การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ซึ่งเป็นเจ้าของสนามได้มีประกาศยกเลิกการดำเนินการจัดจ้างก่อสร้างงานปรับปรุงสนามฟุตบอลราชมังคลากีฬาสถาน ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์(อี-บิดดิ้ง) ตามวงเงินงบประมาณ 70.3 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 กันยายน โดยระบุเหตุผลว่า ไม่มีผู้ยื่นเอกสารเสนอราคา ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์ของแฟนฟุตบอลไทยอย่างมาก เนื่องจากมองว่าอาจจะทำให้การซ่อมแซมสนามไม่ทันการเป็นเจ้าภาพ และเสียสิทธิการเป็นเจ้าภาพไป

“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยดมณี ผู้ว่าการ กกท. กล่าวว่า จากที่กำหนดสนามไว้ 4 แห่ง คือ ราชมังคลากีฬาสถาน, สนามสมโภช 700 ปี จ.เชียงใหม่, สนามติณสูลานนท์ จ.สงขลา และสนามกีฬาธรรมศาสตร์ รังสิต โดย 2สนามแรกเป็นสนามที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กกท. ที่ผ่านมา กกท. ได้หารือเรื่องดังกล่าวกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ มาโดยตลอด ในประเด็นของการปรับปรุงซ่อมแซมสนามกีฬาทั้ง 2 สนามนั้น กกท. มีแผนที่จะทำการซ่อมแซมสนามอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นราชมังคลากีฬาสถาน ที่ใช้จัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติมาโดยตลอด ทำให้การซ่อมแซมมีรายละเอียดไม่มาก ตรงกับมาตรฐานที่เอเอฟซีต้องการ ในส่วนของสนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ที่ก่อสร้างขึ้นเพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ในปี 2538 ครั้งที่ 18 ผ่านมาเกือบสามสิบกว่าปีแล้ว ยังไม่เคยมีการปรับปรุงซ่อมแซมสนามแต่อย่างใด ซึ่งหากจะมีการปรับปรุงให้ได้มาตราฐานตามที่เอเอฟซี กำหนดต้องใช้ระยะเวลาการดำเนินการมากกว่าสนามกีฬาอื่นๆ สำหรับเรื่องงบประมาณ จำนวน 570 ล้านบาท ที่ได้รับอนุมัติเพื่อปรับปรุงซ่อมแซมสนามนั้น เป็นงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติ เพื่อปรับปรุง 3 สนามกีฬาภายใต้การกำกับดูแลของ กกท. โดย กกท.ได้รับอนุมัติเมื่อเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากการซ่อมแซมสนามที่เชียงใหม่มีรายละเอียดค่อนข้างมาก และต้องดำเนินการตามขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐซึ่งค่อนข้างใช้ระยะเวลาตามขั้นตอนของการอี-บิดดิ้ง ทำให้การดำเนินงานล่าช้า

Advertisement

ดร.ก้องศักดกล่าวต่อว่า ส่วนสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ที่ จ.นครราชสีมา นั้น ก่อสร้างเพื่อใช้จัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ในปี 2550 และยังจะใช้สำหรับจัดการแข่งขันกีฬาคนพิการทางการเคลื่อนไหวชิงแชมป์โลก “ไอวาส เวิลด์ เกมส์ 2020” ระหว่างวันที่ 20-28 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งสนามแห่งนี้ก็ยังไม่เคยปรับปรุงซ่อมแซมเช่นกัน ดังนั้น ในส่วนของราชมังคลากีฬาสถาน และสนามเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ที่นครราชสีมา คาดว่าจะเสร็จทันการแข่งขันอย่างแน่นอน ส่วนสนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ที่แล้วเสร็จไม่ทันตามกำหนดส่งมอบสนามให้เอเอฟซี ภายในวันที่ 24 ธันวาคม นั้น กกท. ได้ประสานกับสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ตั้งแต่แรกที่ทราบว่าจะปรับปรุงสนามไม่ทันตามกำหนด ซึ่งทราบว่าสมาคมกีฬาฟุตบอลฯได้มีแผนสำรองดังกล่าวไว้แล้ว

“กกท. ขอเรียนว่าการปรับปรุงสนามทั้ง 3 แห่งในครั้งนี้ ไม่ได้จะทำการปรับปรุงเพื่อรองรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย ยู 23 หรือการแข่งขัน ไอวาส เวิลด์ เกมส์ 2020 แต่เพียงอย่างเดียว แต่เราทำการปรับปรุงทั้ง 3 สนามซึ่งยังไม่เคยมีการปรับปรุงซ่อมแซมมาก่อน ทั้งนี้ เพื่อให้สนามกีฬาภายใต้การกำกับดูแลของ กกท. ได้มาตรฐานสากลของการแข่งขัน และรองรับการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ พร้อมทั้ง บริการทุกสมาคมกีฬาได้อย่างเต็มรูปแบบและให้บริการกับประชาชนทุกคน เพื่อให้เกิดประโยชน์คุ้มค่าในการใช้บริการสนามกีฬาให้มากที่สุด และจะดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ เมื่อสนามสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ได้ดำเนินการซ่อมแซ่มแล้วเสร็จ ได้หารือกับนายกสนามคมฟุตบอลในเบื้องต้น แม้ว่าจะดำเนินการซ่อมแซ่มไม่ทันการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 แต่จะมีการนำการแข่งขันระดับนานาชาติมาแข่งที่สนามดังกล่าวแน่นอน” ผู้ว่าการ กกท.กล่าว

ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image