ความเคลื่อนไหวโค้งสุดท้ายของการแข่งขันฟุตบอล “โตโยต้า ไทยลีก 2019” ซึ่งจากผลการแข่งขันเมื่อช่วงวันที่ 2-3 ตุลาคม ที่ผ่านมา มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของการลุ้นแชมป์อีกครั้ง เมื่อ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกชนะ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 3-2, “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี เปิดบ้านชนะ ชัยนาท ฮอร์นบิล 4-0 ทว่า “กว่างโซ้งมหาภัย”สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด สะดุด บุกเสมอ พีทีที ระยอง 2-2
ทำให้คะแนนตอนนี้ ขณะเหลือ 2 เกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นำเป็นจ่าฝูง มี 54 แต้ม ตามด้วย ที่ 2 การท่าเรือ เอฟซี กับ ที่ 3 สิงห์ เชียงราย 52 แต้ม กรณีคะแนนเท่ากัน เมื่อจบฤดูกาล จะวัดเฮดทูเฮด ซึ่ง เชียงราย ดีกว่าอีก 2 ทีม
สำหรับโปรแกรมทีมลุ้นแชมป์ 2 นัดท้าย วันที่ 20 ตุลาคม บุรีรัมย์ พบ การท่าเรือ, สิงห์ เชียงราย พบ พีที ประจวบ และวันที่ 26 ตุลาคม บุรีรัมย์ เยือน เชียงใหม่ เอฟซี, การท่าเรือ เปิดบ้านพบ สมุทรปราการ ซิตี้ และ สิงห์ เชียงราย เยือน สุพรรณบุรี เอฟซี
เนื่องด้วยสถานการณ์ลุ้นแชมป์ยังไม่มีผู้ใดการันตีแชมป์ ทำให้ในส่วนของการมอบถ้วยรางวัลชนะเลิศนั้น มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นทั้ง 3 สนามคือ สมโภชเชียงใหม่ 700 ปี, แพท สเตเดียม และ สนามกีฬา จ.สุพรรณบุรี
โดยเรื่องนี้ “บิ๊กโจ” นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการ และรองโฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า หากสถานการณ์ยังสูสีถึงนัดสุดท้าย เบื้องต้นจะจัดถ้วยแชมป์ไว้จุดกึ่งกลาง ที่ไปถึงทั้ง 3 สนามอย่างรวดเร็วที่สุด จากนั้นเมื่อเริ่มมีความชัดเจน ก็จะนำส่งโดยเฮลิคอปเตอร์ ยอมรับว่าหากก้ำกึ่งมากๆ คาดการณ์ยาก อาจนำถ้วยแชมป์ไปสนามช้าบ้าง แต่ยังไงก็จะทันตามพิธีการในสนาม ทีมแชมป์จะได้ถ้วยไปฉลองในวันดังกล่าวแน่นอน นอกจากนี้ อีกวิธีคืออาจเตรียมถ้วยจำลองไว้ อย่างไรก็ตาม ทั้งสมาคมฯ และ บริษัท ไทยลีก จำกัด จะประชุมวางแผนอีกครั้ง หลังจบเกมรองสุดท้าย
