ควันหลงหลังเกมที่ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ เสมอกับ คองโก ทีมอันดับ 90 ของโลก 1-1 ในการแข่งขันอุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ ที่บีจี ปทุม สเตเดียม เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม
อากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชาวญี่ปุ่น กล่าวว่า เกมนี้เริ่มอย่างยากลำบากเพราะว่าต้องปรับแผนเฉพาะกิจจากอาการบาดเจ็บของ ธีราทร บุญมาทัน แต่ทุกคนก็เล่นและช่วยเหลือกันได้ดี ซึ่งพอใจกับการเล่นที่หลายครั้งสามารถช่วยกันเพรสซิ่งจนเอาบอลมาครองได้ แสดงให้เห็นว่าทุกคนเล่นกันเป็นทีมได้ดีขึ้น
ส่วนอาการบาดเจ็บของธีราทร นั้น นิชิโนะ กล่าวว่า ต้องรอการวินิจฉัยอย่างละเอียดอีกครั้ง เป็นอาการที่โดนสตั๊ดของธนบูรณ์ เกษารัตน์ ตอนวอร์มอัพ แต่เท่าที่ได้รับรายงานคร่าวๆ อาการก็ดีขึ้นเป็นลำดับ การตัดสินใจไม่ให้เล่นเพื่อป้องกันเอาไว้ก่อน
“การเปลี่ยนผู้เล่น 6 คน ทำให้วันนี้ได้ลองผู้เล่นหลายคน แต่ก็ไม่อยากเปลี่ยนทีละคนจึงเลือกเปลี่ยนทีเดียว 3 คนในช่วงพักครึ่ง หลายคนที่ลงสนามไปอาจจะต้องปรับปรุงกันบ้าง แต่ก็มีคนที่เล่นได้น่าพอใจ และบางคนต้องยกระดับตัวเอง แต่คงจะไม่บอกว่าเป็นใคร สิ่งที่น่าพอใจในวันนี้คือทุกคนช่วยกันไล่ ช่วยกันบีบ ตั้งแต่แดนบน ซึ่งสิ่งที่คิดไว้คือการเป็นรองเรื่องสรีระ ต้องใช้การช่วยกันแบบนี้เป็นการทดแทน รวมถึงยังได้ทดลองระบบการเล่นหลายอย่าง ในแบบที่ไม่มีชนาธิป สรงกระสินธ์ และถือว่าพอใจเลยทีเดียว”
นิชิโนะ ยังกล่าวถึง ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา ที่ถูกส่งลงมาตั้งแต่ต้นครึ่งหลัง ว่า แม้จะอายุน้อย แต่มีเทคนิคดี มีความกล้าเลี้ยงเข้าหาคู่แข่ง แต่ต้องปรับเรื่องของแรงปะทะที่ยังสู้กับกองหลังตัวใหญ่ๆ ไม่ได้ เป็นเรื่องที่ต้องเพิ่มประสบการณ์ในการเพิ่มลูกล่อลูกชนกับกองหลัง เชื่อว่าจะเป็นผู้เล่นแนวรุกที่ดีของทีมชาติไทยคนหนึ่ง
กุนซือแดนปลาดิบ กล่าวปิดท้ายว่า การมีธีรศิลป์ แดงดาในทีมวันนี้ทำให้เห็นว่ามีประโยชน์กับทีม ช่วยดึงกองหลังเปิดพื้นที่ให้เพื่อน จ่ายบอลเกมรุกให้เพื่อนได้หลายครั้ง แต่อาจจะด้วยสภาพร่างกายที่ยังไม่ค่อยขยับตัวเท่าไหร่ คงต้องคุยเพื่อปรับในจุดนี้ ขณะที่ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ เนื่องจากไม่ค่อยได้ลงสนามทำให้ไม่ค่อยได้ดูฟอร์ม จึงใช้โอกาสเกมนี้ เพื่อดูฟอร์ม แต่ส่วนจะเลือกใครลงเจอกับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์นั้น คงต้องรอดูกัน
สำหรับนัดต่อไปของทีมชาติไทย จะลงเล่นฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่มจี นัดที่ 3 เปิดสนามม.ธรรมศาสตร์ รังสิต รับการมาเยือนของทีมเต็ง 1 ในกลุ่มอย่าง สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ในวันที่ 15 ตุลาคม เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 32
