‘นิชิโนะ’ ไม่กล้าการันตีตั๋วโอลิมปิก ยืนยันผลงานดีกว่าซีเกมส์แน่นอน

นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และอากิระ นิชิโนะ หัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทย ร่วมแถลงข่าวความพร้อมของ “ช้างศึก” ฟุตบอลทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 

นายกรวีร์กล่าวว่า สำหรับความพร้อมของการเตรียมการแข่งขันนั้น ตอนนี้ทั้ง 4 สนาม ประกอบด้วย ราชมังคลากีฬาสถาน, สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต, สนามกีฬาติณสูลานนท์ จ.สงขลา และช้าง อารีนา จ.บุรีรัมย์ มีความพร้อมเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือแค่การปรับปรุงบางจุดให้ทันกำหนดการแข่งขัน 8-26 มกราคม 2563 ส่วนเรื่องการขายบัตรเข้าชมได้เปิดช่องทางการจำหน่ายทางไทยทิคเก็ตเมเจอร์ ตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา 

“อยากเห็นนักเตะที่ลงสนามทุกคนสู้เต็มที่ อยากให้เป็นทัวร์นาเมนต์คืนความสุขให้กับแฟนบอลชาวไทย มั่นใจว่าทีมชาติไทยจะสร้างความภาคภูมิใจและความสุขให้กับพี่น้องชาวไทยแน่นอน” นายกรวีร์กล่าว

อากิระ นิชิโนะ กล่าวว่า จากซีเกมส์ที่ผ่านมาที่ไม่สามารถทำตามเป้าที่วางไว้ อยากขอโทษกับแฟนบอลทุกคนด้วย แต่ไม่ใช่งานง่ายและนักเตะทุกคนก็พยายามอย่างเต็มที่แล้ว เหตุผลสำคัญยังไม่รู้จักนักเตะชุดนี้ดีนัก ทำให้การบริหารจัดการต่างๆ ออกมาไม่ดี หลังจากนี้จะเตรียมพร้อมให้ทำผลงานดีขึ้นในรายการชิงแชมป์เอเชีย ตอนนี้ปล่อยให้นักเตะทุกคนได้พักผ่อนร่างกาย กังวลว่าจะฟื้นฟูสภาพร่างกายกลับมาได้อย่างไร จะยึดที่ตัวนักเตะเป็นหลัก จึงให้ทุกคนได้พักอย่างเต็มที่ แล้วเรียกมาเก็บตัวอีกครั้งในวันที่ 26 ธันวาคม

Advertisement

“การเป็นเจ้าภาพจะได้เปรียบที่เสียงเชียร์จากแฟนบอล กระตุ้นให้นักกีฬาทำผลงานได้ดี รายการนี้ต่างจากซีเกมส์ ถือว่าแข็งแกร่งกว่ามาก อยากให้ทุกคนมีความท้าทายและสู้อย่างเต็มที่เป็นเป้าหมายแรก การเตรียมทีมและทุกๆ เกมไม่มีอะไรง่าย แต่ทุกคนจะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด” เฮดโค้ชทีมชาติไทยกล่าว

วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ เพลย์เมกเกอร์ทีมยู 23 กล่าวว่า สภาพร่างกายตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว จะพยายามทำตามแทคติคของโค้ชให้ได้ เป้าหมายมีอย่างเดียว คือ ต้องผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ และลุ้นไปโอลิมปิกเกมส์ให้ได้เท่านั้น

กฤษดา กาแมนกล่าวว่า ยอมรับว่าคู่แข่งแข่งแกร่งกว่ามาก แต่ก็อยู่ที่การเตรียมตัวของไทยเอง และดูว่าโค้ชจะให้สู้อย่างไร มั่นใจว่าการได้เล่นในบ้านจะทำให้นักเตะไทยมีกำลังใจและสู้กับคู่แข่งทั้ง 3 ชาติได้ 

Advertisement

สำหรับรายการนี้ จะเป็นการชิงโควต้าโอลิมปิกเกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 3 ทีม และมีการใช้วีเออาร์ในการตัดสินแบบเต็มรูปแบบตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์

โปรแกรมการแข่งขันของทีมชาติไทย แข่งขันที่ราชมังคลากีฬาสถาน เวลา 20.15 น. ทุกแมตช์

8 มกราคม 2563 ไทย พบ บาห์เรน
11 มกราคม 2563 ออสเตรเลีย พบ ไทย
14 มกราคม 2563 ไทย พบ อิรัก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image