‘พิพัฒน์’เชื่อ ‘ราชมัง’ ปรับปรุงเสร็จทันส่งมอบเอเอฟซีแน่นอน

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้ตรวจความคืบหน้าการซ่อมแซมและปรับปรุงสนามราชมังคลากีฬาสถาน ที่จะใช้เป็นสังเวียนแข้งในศึกฟุตบอลอายุไม่เกิน 23 ปี ชิงแชมป์เอเชีย เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม

หลังจากตรวจความคืบหน้า นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ตอนนี้การปรับปรุงคืบหน้าไปแล้ว 80-90% ซึ่ง บริษัท ศรีไทย-อ๊อตโต้ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้รับเหมา ยืนยันทุกอย่างจะเสร็จทันกำหนดส่งมอบในวันที่ 25 ธันวาคม ส่วนที่การส่งมอบงานล่าช้าจนต้องเลื่อนจากวันที่ 15 ธันวาคม เพราะวัสดุที่จะใช้ในการปรับปรุงเข้ามาล่าช้า แต่ตอนนี้ทั้งคนและวัสดุทุกอย่างพร้อมแล้ว จึงได้เร่งคนงานและผู้ควบคุมงานให้ดำเนินการโดยด่วน ทั้งการปรับปรุงห้องต่างๆ 11 ห้อง อาทิ เช่น ห้องแต่งตัวนักกีฬาทั้ง 4 ห้อง, ห้องแถลงข่าว, ห้องพักสื่อมวลชน, ห้องพักผู้ตัดสิน, ห้องแพทย์พยาบาล และห้องเอนกประสงค์ การทาสีโดยรอบสนาม ทั้งนี้ หากส่งมอบงานไม่ทัน 25 ธันวาคม ก็น่าจะทันวันที่ 30 ธันวาคม ซึ่งเป็นระยะเวลาก่อนที่ สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย(เอเอฟซี) จะเดินทางมาตรวจความพร้อมครั้งสุดท้าย(3 มกราคม)

ส่วน “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า ตามกำหนดการนั้นแต่ละสนามจะต้องทยอยส่งมอบสนามให้ เช่นช้าง อารีนา ส่งมอบวันที่ 16 ธันวาคม, สนามติณสูลานนท์ ส่งวันที่ 17 ธันวาคม และสนามม.ธรรมศาสตร์ ส่งมอบวันที่ 18 ธันวาคม

ประมุขลูกหนังไทย กล่าวต่อว่า ซึ่งตามกำหนดการณ์ วันที่ 3 มกราคม พ.ศ.2563 จะต้องส่งมอบสนามทั้งหมดให้กับสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) และหลังจากนั้นจะอยู่ภายใต้การควบคุมของเอเอฟซีทั้งหมด

Advertisement

บิ๊กอ๊อด ปิดท้ายว่า ในส่วนของราชมังคลากีฬาสถานนั้น ด้วยข้อบังคับหลายอย่างอาจจะทำให้ล่าช้าไปบ้าง แต่ยังเชื่อคำมั่นของดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ว่าจะเสร็จเรียบร้อยทันแน่นอน

สำหรับฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี มี 4 สนามที่จัดการแข่งขัน คือ ราชมังคลากีฬาสถาน, ช้าง อารีนา, สนามติณสูลานนท์ จ.สงขลา และ สนามมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ซึ่งถึงบัดนี้ ยังไม่มีสนามใดที่เสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image