หลังจากที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ประกาศเลื่อนการแข่งขันฟุตบอลลีกในประเทศออกไป เนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) และจะกลับมาแข่งขันอีกครั้งในวันที่ 18 เมษายน เป็นต้นไปนั้น
ในส่วนของโปรแกรมการแข่งขันที่เลื่อนนั้น จะใช้วิธีการนำโปรแกรมในสัปดาห์ที่ 5 ไปเริ่มเตะตั้งแต่วันที่ 18 เมษายนแทน เพื่อไม่ให้กระทบกับโปรแกรมเดิมที่วางเอาไว้ เพียงแต่ยังไม่สามารถสรุปอะไรได้ เนื่องจากต้องรอทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) มีข้อสรุปในเรื่องของโปรแกรมฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกก่อน ถ้าหากมีการเลื่อนก็จะนำเอาโปรแกรมไปใส่ในเดือนมิถุนายนแทน นอกจากนี้อาจจะต้องมีเพิ่มโปรแกรมกลางสัปดาห์เข้ามาอีก
ด้าน “บิ๊กแชมป์” นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เปิดเผยว่า ในตอนนี้ทางสมาคมฯ ได้วางโปรแกรมเอาไว้ให้จบในช่วงเวลาเดิมคือเดือนตุลาคม ซึ่งเท่ากับว่าโปรแกรมที่ถูกยกออกไปนั้นจะต้องนำไปเตะในช่วงเวลาเดิมที่จะเหลือเพียง 7-8 เดือน ซึ่งมันก็จะต้องแลกมาด้วยการเตะในช่วงกลางสัปดาห์ หรืออาจจะต้องไปเตะในช่วงของโปรแกรมฟีฟ่าเดย์แทน
นายกรวีร์ กล่าวต่อว่า โปรแกรมนั้นจะต้องจบลงในเดือนตุลาคมเพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับสโมสรในเรื่องของสัญญานักเตะต่างๆ แต่สโมสรก็ต้องยอมรับว่าจะมีโปรแกรมที่ถี่ขึ้น ซึ่งการเหลือ 16 ทีมในตอนนี้มันทำให้มีช่องว่างตรงกลางสัปดาห์ที่สามารถนำโปรแกรมไปใส่ไว้ได้ แต่ต้องอย่าลืมว่ายังมีฟุตบอลถ้วยอีก 2 รายการคือช้าง เอฟเอ คัพ และโตโยต้า ลีกคัพ ดังนั้นสโมสรก็ต้องเลือกว่าจะเน้นที่รายการใด เราไม่ได้อยากให้มันเกิดสถานการณ์แบบนี้ขึ้น แต่มันก็ไม่ได้มีทางออกมากนัก ดังนั้นจะพยายามทำให้มีผลกระทบกับสโมสรน้อยที่สุด
“อีกหนึ่งสาเหตุที่จะต้องจบในช่วงเดือนตุลาคม เพราะว่าในเดือนพฤศจิกายนต้นเดือนจะมีการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก หลังจากนั้นก็จะเป็นเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ อีก ถ้าหากไม่ปิดฤดูกาลก่อนแล้วเลื่อนโปรแกรมออกไปถึงช่วงนั้น ก็จะทำให้ทีมชาติไม่สามารถใช้ชุดที่ดีที่สุดลงแข่งขันได้ ไหนจะยังไม่มีผู้เล่นต่างประเทศที่เล่นอยู่ในเจลีกมาอีก เพราะต้นสังกัดไม่ปล่อยมาแน่นอน”
พ่อบ้านลูกหนังไทย กล่าวปิดท้ายว่า ในส่วนของฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” นั้น เดิมทีวางโปรแกรมเอาไว้ในเดือนกรกฎาคม เป็นช่วงนอกปฏิทินฟีฟ่าเดย์ เพราะว่าฟีฟ่าเดย์ในปีนี้เป็นฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกทั้งหมด จึงต้องเล่นนอกปฏิทิน แต่ตอนนี้ก็ต้องเลื่อนออกไปก่อน แล้วดูสถานการณ์อีกทีว่าฟีฟ่าจะมีมาตรการอย่างไร จะสามารถจัดลงช่วงไหนได้บ้าง อาจจะเลื่อนยาวไปหลังจบการแข่งขันซูซูกิ คัพ ในช่วงต้นปีหน้าก็ได้เช่นกัน
ด้าน นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการ และรองโฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า เกี่ยวกับคิวเตะคัดฟุตบอลโลก กำลังรอการยืนยันจากฟีฟ่า ในการเลื่อนแข่งขัน ซึ่งจะครอบคลุมถึงเกมที่ทีมชาติไทย จะรับมือ อินโดนีเซีย วันที่ 26 มีนาคม ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ส่วนเกมอุ่นเครื่องกับ กือราเซา ที่เดิมกำหนดไว้ 30 มีนาคม เมื่อรัฐบาลมีนโยบายให้เลื่อนการจัดกีฬา ดังนั้นก็จะไม่มีเกมในเดือนดังกล่าว ซึ่งทางไทยก็จะคุยกับ กือราเซา เพื่อโยกวันเตะให้สอดคล้องกับฟีฟ่าเดย์ต่อไป
