จากกรณีที่ฟุตบอลลีกภายในประเทศไทย ทั้งไทยลีก1-4 ได้ประกาศพักการแข่งขัน 45 วัน เป็นมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19” โดยมีกำหนดกลับมาทำการแข่งขันอีกครั้งในวันที่ 18 เมษายน และได้มีการวางโปรแกรมแข่งขันใหม่ออกมาแล้ว ขณะที่รัฐบาลไทยได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งในการประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ได้มีการประกาศปิดสถานที่ที่ทำให้เกิดการแพร่เชื่อได้ง่ายเป็นการชั่วคราว อาทิเช่น สนามมวย สนามกีฬา สนามม้า และงดกิจกรรมการรวมตัวของคนจำนวนมาก รวมทั้งงานกีฬาต่างๆ
“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า ทางสมาคมฯ นั้นได้มีการติดตามสถานการณ์ และฟังแนวทางจากทางรัฐบาลมาโดยตลอด เพื่อปฏิบัติให้สอดคล้อง ขณะเดียวกัน ฟุตบอลไทยลีก ทุกระดับ ก็เลื่อนแข่งขันไปก่อนหน้านี้แล้ว และจะเปิดแข่งขันอีกที วันที่ 18-19 เม.ย. ซึ่งมีเวลาติดตามสถานการณ์อีกระยะหนึ่ง ถึงตอนนี้ จะยึดโปรแกรมแข่งขันเดิมไปก่อน ในวันเวลาที่กำหนดไป ซึ่งจะแข่งแบบปิด ไม่ให้แฟนบอลเข้าชม เพื่อลดการรวมตัวของคนหมู่มาก นอกเสียจากว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เลวร้ายลง จะพิจารณากันใหม่อีกครั้ง ถึงโอกาสการเลื่อนแข่งออกไปอีก
“ตอนนี้แม้ฟุตบอลลีกพัก แต่หลายสโมสรก็มีอุ่นเครื่องกันอยู่ ซึ่งการเตะแบบปิด ก็มีจำนวนคนเข้าร่วมเกม ไม่ต่างจากเกมอุ่นเครื่องนัก ซึ่งการเตะแบบปิด จะมีแค่นักฟุตบอล โค้ช เจ้าหน้าที่ ผู้สื่อข่าว ทุกคนต้องมีไอดีการ์ดเท่านั้น ถึงจะเข้าสนามได้ ส่วนมาตรการคัดกรอง ทุกสโมสรก็ทราบข้อปฏิบัติดีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะการตรวจวัดไข้, จัดเจลล้างมือ, หน้ากากอนามัย”
ประมุขลูกหนังไทย กล่าวปิดท้ายว่า สมาคมฯ ต้องประเมินสถานการณ์กันเรื่อยๆ ไม่มีอะไรแน่นอน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการแพร่ระบาด ซึ่งในไทยลีกนั้น หากไม่สามารถจัดแข่งจนจบได้ อาจส่งผลกระทบต่อค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด จาก “ทรูวิชั่นส์” และหากจัดเก็บไม่ได้ ย่อมส่งผลต่อเงินสนับสนุนสโมสรแน่นอน ซึ่ง สมาคมฯ พยายามประคับประคอง หาทางออกที่ดี และเหมาะสมที่สุด ส่วนวันปิดลีก ก็จะต้องอยู่ในเดือนตุลาคม เพราะมีบางกรณีที่สโมสรทำสัญญาไว้กับนักเตะถึงแค่ช่วง ต.ค.-พ.ย. หากปิดลีกช้ากว่านั้น อาจเกิดการได้เปรียบ เสียเปรียบกันได้
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
