จากผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้การแข่งขันฟุตบอลลีกภายในประเทศต้องเลื่อนออกไปและมีกำหนดกลับมาแข่งขันใหม่ในเดือนกันยายน ขณะที่นักฟุตบอลเองต้องเก็บตัวอยู่บ้านและฝึกซ้อมแบบตัวใครตัวมัน ทำให้ส่งผลกระทบต่อการเตรียมทีมหลายอย่าง รวมถึง “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่นับตั้งแต่จบการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนเป็นต้นมา ยังไม่เคยมีการรวมทีมอีกเลย และการแข่งขันยังถูกเลื่อนออกไปแบบไม่มีกำหนดด้วยนั้น
“โจ” นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รักษาการเลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยถึงแผนการในการเก็บตัวของทีมชาติไทยว่า หลังจากที่ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ(ฟีฟ่า) และสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) ได้ยกเลิกโปรแกรมคัดบอลโลกโซนเอเชีย ตามปฏิทินฟีฟ่าเดย์ของเดือนมีนาคมกับมิถุนายน ออกไป จึงทำให้ในเดือนมิถุนายน จะไม่มีช่วงฟีฟ่าเดย์แล้ว ดังนั้นก็จะไม่มีการเรียกเก็บตัวของผู้เล่นทีมชาติ
นายพาทิศ กล่าวต่อว่า ขณะที่สมาคมฯ นั้นยังต้องติดตามมาตรการจากทางภาครัฐ เพราะตอนนี้นักเตะยังเข้าสนามซ้อมกันไม่ได้ แต่หากวันข้างหน้าเริ่มมีการปลดล็อคให้กลับมาซ้อมได้แล้วนั้น คงจะมีการสอบถาม อากิระ นิชิโนะ กุนซือทีมชาติไทย ว่าสนใจจะไปชมการซ้อมของสโมสรหรือไม่ เชื่อว่าถึงเวลานั้นทางเขาก็อยากจะทำงานเหมือนกัน
“ส่วนโปรแกรมคัดบอลโลกที่ถูกเลื่อนออกไป ก็ยังไม่มีกำหนดการใหม่จากทางฟีฟ่าและเอเอฟซี ว่าจะแข่งขันกันวันไหน อย่างไรก็ตาม ถ้าในช่วงฟีฟ่าเดย์เดือนกันยายน แม้ยังไม่มีกำหนดที่เป็นทางการออกมา แต่ถ้าสถานการณ์เริ่มทุเลาลง ถึงตอนนั้นก็มีโอกาสที่จะเรียกเก็บตัวของผู้เล่นทีมชาติ ซึ่งตรงนี้ยังเป็นเรื่องของอนาคต”
ส่วนกรณีที่การแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ซึ่งเลื่อนออกมาแข่งในเดือนกันยายน พ.ศ.2563- พฤษภาคม พ.ศ.2564 ทำให้ทับซ้อนกับการแข่งขันเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ที่มีโปรแกรมในเดือนพฤศจิกายนนั้น นายพาทิศ กล่าวว่า จนถึงตอนนี้โปรแกรมของซูซูกิ คัพ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการที่โปรแกรมแข่งขันทับซ้อนกับฟุตบอลลีก คงต้องให้ความสำคัญกับฟุตบอลลีกเป็นหลัก และแข่งขันให้จบเลกแรกในช่วงกลางเดือนธันวาคม จากนั้นจะมีช่วงพักเบรกปีใหม่เอาไว้ แล้วกลับมาแข่งต่อสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนมกราคม ขณะที่ในอนาคต การแข่งขันซีเกมส์หรือเอเชี่ยนเกมส์ ก็ต้องรอดูกำหนดการที่แน่ชัด ถ้าทับซ้อนไทยลีก ก็จะเน้นที่ฟุตบอลลีกเช่นกัน
