‘สมยศ’ยันค้ำประกันเงินกู้ให้สโมสรไม่ได้ ชี้เงินหนุนทีมยังไม่การันตีเช่นกัน
จากกรณีที่การแข่งขันฟุตบอลลีกภายในประเทศ ต้องพักการแข่งขันตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา เนื่องมาจากการแพร่ระบาดอย่างหนักของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ก่อนที่จะมีแผนกลับมาแข่งขันอีกครั้งในเดือนกันยายนนี้ ถ้าหากว่าสถานการณ์ภายในประเทศไทยมีทิศทางที่ดีขึ้น
แต่ทว่าจากการที่ฟุตบอลไทยไม่มีการแข่งขัน ทำให้แต่ละสโมสรได้รับผลกระทบอย่างหนักโดยเฉพาะในด้านการเงิน ที่ไม่สามารถรับเงินจากผู้สนับสนุนได้ ทำให้ทีมขาดรายได้ และยังต้องรับผิดชอบค่าเหนื่อยของนักเตะ แม้ว่าจะมีการเจรจาขอลดเงินเดือนนักเตะเพื่อแบ่งเบารายจ่าย แต่ก็ยังมีบางสโมสรที่ได้รับผลกระทบหนักมาก จนมีข้อเสนอแนะออกมาว่า สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ควรจะเป็นผู้ค้ำประกันให้กับสโมสร ในการกู้เงินจากสถาบันการเงิน เพื่อมาบริหารจัดการ แล้วค่อยนำเอาเงินสนับสนุนที่จะได้ประจำปี ไปใช้หนี้แทนนั้น
“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า เป็นไปไม่ได้ที่สมาคมฯจะออกหน้าค้ำประกันให้ เนื่องจากสถาบันการเงินเองก็มีขั้นตอนการปล่อยเงินกู้ชัดเจน ว่าจะปล่อยให้กับหน่วยงานหรือสถานประกอบการใดได้บ้าง และสมาคมฯ เองก็ไม่มีอำนาจที่จะไปค้ำประกันการกู้เงินให้กับสโมสรสมาชิก
“ผมเข้าใจได้เกี่ยวกับการเอาเงินสนับสนุนแต่ละปีไปค้ำประกันเพื่อให้แต่ละทีมสามารถกู้เงินได้ แต่มันเป็นเพียงความคิดที่ดำเนินการจริงไม่ได้ เพราะธนาคารจะปล่อยเงินกู้ก็ต่อเมื่อมองว่าผู้กู้มีศักยภาพที่จะใช้คืนได้ และต้องรู้ว่าผู้กู้จะนำเงินไปใช้ทำอะไร ที่ผ่านมานั้นไม่เคยมีการยื่นกู้ธนาคารเพื่อทำสโมสรฟุตบอลมาก่อน ยิ่งสถานการณ์แบบนี้ก็เป็นไปได้ยากที่จะได้อนุมัติเงินกู้ เพราะสถานประกอบการหลายที่เช่น ร้านอาหาร, สถานบริการ เองก็ไม่ได้รับอนุมัติ เพราะเป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยง ปิดตัวได้ทุกเมื่อ”
ประมุขลูกหนังไทย กล่าวต่อว่า ในส่วนของสโมสรฟุตบอล แม้จะมองว่ามีเงินสนับสนุนสมาคมฯ ไปใช้หนี้ได้ แต่ตอนนี้ไม่มีการการันตีว่าจะได้เงินตรงนี้ เพราะสมาคมฯไม่ได้รับเงินจากสปอนเซอร์เลยตั้งแต่เกิดเหตุโควิด-19 ทั้งจากช้าง หรือทรูวิชั่นส์ ที่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด เนื่องจากว่าไม่มีแข่งขันฟุตบอล กิจกรรมที่วางแผนเอาไว้ก็ต้องยกเลิก ทำให้สมาคมฯ ไม่สามารถเบิกจ่ายเงินออกมาได้
“ก่อนหน้านี้เราได้รับเงินค่าถ่ายทอดจากทรูวิชั่นส์มาแล้วงวดแรกในเดือนกุมภาพันธ์ และสมาคมได้มอบให้กับสโมสรสมาชิกไปแล้ว ส่วนงวดที่สองจะครบกำหนดรับมอบในเดือนกรกฎาคม ซึ่งสมาคมยังไม่รู้ว่าจะทรูวิชั่นส์จะจ่ายเงินงวดนี้หรือไม่ เพราะอย่างที่ทราบคือฟุตบอลลีกของไทยไม่มีการแข่งขัน ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่ทรูวิชั่นส์อาจจะยังไม่จ่ายเงินค่าลิขสิทธิ์งวดที่สอง ส่วนงวดที่สามซึ่งเป็นงวดสุดท้ายจะครบกำหนดจ่ายในเดือนก.พ.ปีหน้า เราได้แต่หวังว่ารัฐบาลจะมีการผ่อนปรนให้กิจกรรมฟุตบอลลีกของประเทศกลับมาเตะได้อีกครั้ง เพื่อให้การดำเนินงานต่างเป็นไปตามแบบแผนที่วางไว้”
