วิรัช ชงส.บอลตั้ง ผจก.ทีม ช้างศึก แบ่งเบา นิชิโนะ-เชื่อไปโลดกว่าเดิม

วิรัช ชงส.บอลตั้ง ผจก.ทีม ช้างศึก แบ่งเบา นิชิโนะ-เชื่อไปโลดกว่าเดิม

“ก๊อง”นายวิรัช ชาญพานิชย์ อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทย เปิดเผยว่า ผลงานทีมชาติในยุคปัจจุบันกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาและฟื้นฟูให้กลับไปยิ่งใหญ่ โดย พล ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มีความตั้งใจจริงที่จะสร้างทีมบอลไทยให้ก้าวหน้ามากกว่าอดีตที่ผ่านมา เพียงแต่ยังติดขัดปัญหาเรื่องการประสานงานที่ดีพอ ทำให้การทำงานบางอย่างไม่ไหลลื่น เมื่อปีที่แล้วตอนเอเชี่ยนคัพ 2019 ที่ยูเออี ตนได้มีโอกาสเข้าไปร่วมเป็นที่ปรึกษาให้กับทีมชาติไทยชุดใหญ่ ซึ่งประสบปัญหาวิกฤตตั้งแต่เกมประเดิมสนามที่เราแพ้อินเดีย 1-4 จนต้องปลดโค้ช มิโลวาน ราเยวัช กลางอากาศ ก่อนที่ทุกคนในทีมจะรวมพลังกู้สถานการณ์จนทีมกลับมาเข้ารอบสองได้สำเร็จ ความจริงหลังกลับจาก ยูเออี ตนมีความคิดที่จะเข้าไปเสนอ “บิ๊กอ๊อด” ให้หันกลับมาใช้โค้ชในประเทศ โดยต้องการจะรวมลูกศิษย์ที่เป็นโค้ชดังทั้งหลายมาร่วมกันทำงานเป็น “ดรีมทีมโค้ช” ไม่ว่าจะเป็น “โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ซึ่งตนอยากให้คัมแบ๊คมาทำงานเพื่อชาติอีกครั้ง ร่วมกับเพื่อนๆ อย่าง “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน, “โค้ชวัง” ธวัชชัย อ่องตระกูล, “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน รวมถึง “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ แต่ไอเดียนี้ต้องพับไป เพราะสมาคมฯ ตัดสินใจเลือกกุนซือชาวญี่ปุ่น อากิระ นิชิโนะ เข้ามากุมบังเหียน ซึ่งต้องถือว่าเลือกถูกคนเพราะโค้ชนิชิโนะถือเป็นกุนซือที่มีฝีมืออย่างแท้จริง

นายวิรัชกล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องนโยบายสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ยุคนี้ ที่ไม่มี “ผู้จัดการทีม” เข้ามาช่วยดูแลทีมชาติ ทุกอย่างเป็นอำนาจสิทธิขาดของคนเป็นเฮดโค้ชแต่เพียงผู้เดียวนั้น นายวิรัช กล่าวว่า นี่เป็นสิ่งเดียวที่ตนค่อนข้างเห็นต่างกับผู้บริหารสมาคมฯ ชุดนี้ เพราะฟุตบอลไทยยังไงระบบผู้จัดการทีมยังคงสำคัญอยู่ อย่างน้อยก็มาช่วยประสานงานเรื่องต่างๆ ให้ราบรื่น ยิ่งถ้าเราใช้กุนซือต่างชาติยิ่งจำเป็นใหญ่ เพราะผู้จัดการทีมนี่แหละจะคอยเป็นตัวซัพพอร์ตการทำงานของโค้ชนอกให้สำเร็จลุล่วง ลำพังจะใช้แค่ล่ามเอามาแปลภาษาอย่างเดียวมันไม่เพียงพอหรอก เพราะเรื่องของฟุตบอลมันมีอะไรที่ลึกซึ้งกว่านั้นเยอะ

“จากประสบการณ์ของผมที่เคยทำงานร่วมกับโค้ชต่างชาติ อย่าง ปีเตอร์ วิธ มาหลายปี บอกเลยว่าคนเป็นผู้จัดการทีมนี่แหละสำคัญมากสำหรับทีมชาติไทย บอลจะสำเร็จหรือล้มเหลวบางทีไม่ใช่โค้ชอย่างเดียว บางเรื่องเขาก็ต้องการที่ปรึกษาที่มีคุณภาพและมีอำนาจตัดสินใจ ผมว่าเราต้องมองบทบาทของคนมาเป็นผู้จัดการทีมใหม่ อย่าคิดว่าเอาเขามาเพื่อช่วยอัดฉีดอย่างเดียว ซึ่งมันไม่ใช่สาระสำคัญ สิ่งสำคัญมันอยู่ที่ว่าเราต้องหาใครสักคนที่มีความรู้เรื่องฟุตบอล มีเวลาเอาใจใส่ทีมมากพอ มาช่วยเติมเต็มการทำงานของโค้ช” นายวิรัชกล่าว

อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลไทย กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับโค้ชนิชิโนะ ตนมองว่า เขาเก่งอยู่แล้ว แต่ถ้าได้ผู้จัดการทีมที่มีความสามารถมาช่วยกันทำงาน รับรองว่าทีมชาติไทยเราไปโลดแน่ กับเกมคัดบอลโลก ในอีก 3 แมตช์ที่เหลือ กับ อินโดนีเซีย, ยูเออี และ มาเลเซีย ที่เอเอฟซี วางแผนที่จะให้กลับมาเตะกันในช่วงปลายปีราวเดือนตุลาคมหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image