ยันแล้ว ‘ไทยลีก’ ไม่เบรกแม้ชน ‘ซูซูกิคัพ’ สโมสรในไทยมีสิทธิไม่ปล่อยตัวช่วยทีมชาติ
สหพันธ์ฟุตบอลแห่งอาเซียน(เอเอฟเอฟ) เตรียมประชุมหาข้อสรุปในการจัดการแข่งขันรายการต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะหยิบยกเรื่องการจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ 2020” มาหารือด้วย
นายพาทิศ ศุภะพงษ์ รักษาการเลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า การประชุมจะจัดแบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ในวันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน ซึ่งในส่วนของไทย นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รองประธาน บริษัท ไทยลีก จำกัด จะเป็นผู้แทนเข้าร่วมประชุม สาระสำคัญคือหารือแนวทางการจัดแข่งขันรายการต่างๆ ซึ่งสิ่งที่จะหยิบยกมาพูดคุยกันแน่ๆ คือ ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์อาเซียน ในรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี และ 19 ปี ที่อินโดนีเซีย ประกาศเลื่อนไป ซึ่งไทยรอการวางคิวแข่งขันฟุตบอลหญิง 2 รายการนี้ เพื่อมาเตรียมจัดโปรแกรมแข่งขันฟุตบอลลีกหญิง โดยทีมชาติหญิงชุด 19 ปี ที่เล่นในลีกมีเยอะ จึงต้องรอคิวศึกอาเซียน มาวางการแข่งขันลีกไม่ให้ตรงกันศึกฟุตบอลลีกหญิง เราเตรียมดำเนินการแล้ว พูดคุยติดต่อทีมที่จะเข้าแข่งแล้ว ตามแผนคือแข่งในปีนี้
นายพาทิศกล่าวต่อว่า ในที่ประชุมก็จะพูดคุยเรื่องต่างๆ สอบถามความเคลื่อนไหว สถานการณ์แต่ละประเทศ อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ไทยจะนำเข้าไปแจ้งอย่างเป็นทางการ คือ ฟุตบอลไทยลีก จะปรับโปรแกรมมาเริ่มแข่งขันตั้งแต่ 12 กันยายนเป็นต้นไป จนถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้า เนื่องจากมีสถานการณ์โควิด-19 ดังนั้นศึกไทยลีกจะทับซ้อนกับเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ที่กำหนดแข่งตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนธันวาคมแน่นอน และซูซูกิคัพ ก็ไม่ใช่ช่วงฟีฟ่าเดย์ ดังนั้น สโมสรในไทย มีสิทธิไม่ปล่อยตัวผู้เล่น และผลกระทบไม่เฉพาะทีมชาติไทย นักเตะอาเซียนหลายคนก็เข้ามาเล่นในไทยลีกด้วย จึงต้องแจ้งให้แต่ละชาติรับทราบ
“บอลไทยลีกไม่สามารถเว้นการแข่งขันเพื่อซูซูกิคัพได้ เพราะเราหยุดมานานแล้ว ช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายนก็มีเกมคัดฟุตบอลโลก หากหยุดเดือนธันวาคมจะกลายเป็นพักยาวอีก 2 เดือน สโมสรจะแบกค่าใช้จ่ายอย่างมาก เราต้องจัดการแข่งขันภายใน เพื่อให้สโมสรมีกิจกรรม ไม่กระทบต่อผู้สนับสนุน และอีกเหตุผลที่สำคัญคือ ต้องเร่งปิดเลกแรก ภายในปีนี้ เพราะต้องส่งชื่อ 4 สโมสร ที่เข้าร่วมเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021”
ผู้สื่อข่าวถามถึง กรณีที่มีข่าวว่า เวียดนาม จะขอเป็นเจ้าภาพเดี่ยว ในศึกซูซูกิคัพ(เดิมแข่งเหย้า-เยือน ไม่มีเจ้าภาพ) เพื่อตัดปัญหาเรื่องผลกระทบโควิด-19 หากต้องเดินทางแข่งระบบเดิม นายพาทิศ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเพียงข่าว ไม่ได้มีการพูดคุยใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางการและไม่เป็นทางการ แต่อาจจะหยิบยกมาพูดกันในการประชุมเอเอฟเอฟ ตรงนี้ต้องฟังทุกฝ่าย รวมทั้ง บริษัทที่จัดแข่งขัน ซึ่งดูแลลิขสิทธิ์ต่างๆ ด้วย เพราะที่ผ่านมา ซึ่งจัดแบบเหย้า-เยือน ถือว่าประสบความสำเร็จในแง่การตลาดอย่างมาก มีผู้ชมเข้าไปในสนามจำนวนมาก เปรียบซูซูกิคัพ เหมือนฟุตบอลโลกของอาเซียนเลยทีเดียว
