‘กัลฟ์’ จับมือ ’บุรีรัมย์’ หนุนเด็กไทยบุกฝึกทักษะที่ ‘ดอร์ทมุนด์’ ต่อเนื่องปี2
นายธนญ ตันติสุนทร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานกิจการองค์กร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายไชยชนก ชิดชอบรองผู้อำนวยการสายงานการตลาดและการสื่อสาร บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด ร่วมกันแถลงข่าวโครงการ “กัลฟ์ ฟุตบอล แคมป์ : ชาร์จพลังปลุกฝันนักเตะเยาวชน” ปีที่ 2 ที่่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ช็อป สยามสแควร์ เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม
โครงการ “กัลฟ์ ฟุตบอล แคมป์ : ชาร์จพลังปลุกฝันนักเตะเยาวชน” ปีที่ 2 เป็นโครงการที่พัฒนาสนามฟุตบอลเก่าในชุมชนรวมถึงจัดการแข่งขันเพื่อเฟ้นหานักเตะเยาวชนอายุระหว่าง 14-15 ปี ที่มีความสามารถโดดเด่น 2 คน พร้อมด้วยนักเตะในอคาเดมีของ “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไเนต็ด อีก 2 คน รวมเป็น 4 คน เพื่อเดินทางไปฝึกซ้อมฟุตบอลที่สโมสร “เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทีมดังจากบุนเดสลีก้า เยอรมนี เพื่อยกระดับและพัฒนานักเตะเยาวชนสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพ
นายธนญ กล่าวว่า กลุ่มบริษัทกัลฟ์นั้นมองเห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพเยาวชนที่มีใจรักด้านกีฬา ที่ผ่านมานั้นได้สนับสนุนทั้งฟุตบอลไทยและจัดกิจกรรมคลีนิกฟุตบอลในชุมชนที่เข้าไปทำธุรกิจอย่างต่อเนื่อง สำหรับโครงการในปีที่ 2 นัด ยังคงเดินหน้าจัดอยู่แม้ว่าจะมีโรคโควิด-19 ระบาดอยู่ โดยจะรอให้สถานการณ์ทั่วโลกคลี่คลาย ก็จะนำนักเตะเยาวชนที่มีความมุ่งมั่นไปฝึกซ้อมที่ประเทศเยอรมนีอีกครั้ง ให้ได้สัมผัสกับประสบการณ์กีฬาระดับมืออาชีพจากทีมระดับโลกอย่างใกล้ชิด
นายธนญ กล่าวต่อว่า กัลฟ์ตระหนักดีว่าการจะพัฒนาเยาวชนไทยไปสู่ระดับสากลจะต้องส่งเสริมความพร้อมอย่างรอบด้าน นอกเหนือจากพัฒนาศักยภาพด้านกีฬาแล้ว ก็ต้องพัฒนาสถานฝึกซ้อมและอุปกรณ์ให้ได้มาตรฐานด้วย และสิ่งสำคัญคือความมุ่งมั่นของเยาวชนที่จะพัฒนาตัวเอง เพื่อเป็นแบบอย่างให้กับเยาวชนด้วยกันเอง และเติบโตไปขับเคลื่อนประเทศได้ ดังนั้นกัลฟ์จึงพร้อมสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ เพื่อเปิดโอกาสให้กับเยาวชนได้ทำในสิ่งที่รักและเติบโตไปได้ตามที่คาดหวังเอาไว้
ด้านนายไชยชนก กล่าวว่า ที่ผ่านมาบุรีรัมย์นั้นเน้นในเรื่องของการพัฒนานักเตะระดับเยาวชนอยู่แล้ว ในอคาเดมีนั้นมีนักเตะกว่า 120 คนอยู่ และก็สามารผลักดันนักเตะจนขึ้นมาติดทีมชุดใหญ่ของทีม รวมไปถึงติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ได้แล้วด้วย เมื่อ 2 ปีก่อนนั้นได้เริ่มรู้จักกับทางสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก็เห็นว่าเป็นทีมที่มีทัศนคติคล้ายกัน จนกระทั่งได้กลุ่มบริษัทกัลฟ์ ที่ให้ความสำคัญในการพัฒนาเยาวชนเช่นกันจนได้เกิดเป็นโครงการนี้ขึ้นมา ซึ่งเยาวชนที่ได้ไปก็จะได้รับประสบการณ์เพิ่มขึ้น เชื่อว่าจะมีเพชรเม็ดงามที่สามารถเกิดขึ้นได้จากโครงการนี้
ส่วน นายซูเรซ เล็ตช์มานาน กรรมการผู้จัดการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก สโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ กล่าวว่า สโมสรมีความยินดีที่ได้สานต่อโครงการนี้ เพื่อร่วมแบ่งปันเทคนิคให้กับเยาวชนไทย ซึ่งจากปีก่อนที่นักเตะไทยได้ไปร่วมกิจกรรมมานั้นได้รับการตอบรับที่ดีว่าเด็กไทยนั้นมีความสามารถ อย่างไรก็ตามในช่วงโควิด-19 นี้ก็จะมีการส่งโปรแกรมการฝึกซ้อมทางออนไลน์ไปก่อน และเมื่อสถานการณ์พร้อม ก็ยินดีต้อนรับเยาวชนไปเก็บประสบการณ์ที่ดอร์ทมุนด์อีกครั้ง
สำหรับนักเตะเยาวชนที่ต้องการเข้าร่วมกิจกรรม สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บริษัทบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 02-658-3768, 081-705-4454 หรืออีเมล [email protected]
สำหรับผู้ที่สนใจเสนอให้ปรับปรุงสนามฟุตบอลเก่าในชุมชนให้ได้มาตรฐาน สามารถส่งข้อมูลส่วนตัวและเหตุผลที่ต้องการปรับปรุง พร้อมการแนะนำตัวเองและภาพสนามที่ต้องการให้ปรับปรุงในรูปแบบของวีดีโอคลิป ความยาวไม่เกิน 3 นาที (ไฟล์ .MP4) อัพโหลดผ่าน GoogleDrive/Dropbox หรือ WeTransfer พร้อมส่งลิงค์ไฟล์ มาที่ อีเมล [email protected] ภายในวันที่ 31 สิงหาคม 2563