ไทยลีกขยับวันปิดฤดูกาลเร็วขึ้น ช่วยลดค่าใช้จ่าย-เคลียร์คิวให้ช้างศึก

ไทยลีกขยับวันปิดฤดูกาลเร็วขึ้น ช่วยลดค่าใช้จ่ายเคลียร์คิวให้ช้างศึก

เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นประธานการประชุมสโมสรไทยลีก เพื่อกำหนดแนวทางจัดการแข่งขัน ซึ่งจะเริ่มเตะนัดที่ 5 ในวันที่ 12 กันยายน

หลังการประชุม พล.ต.อ.สมยศให้สัมภาษณ์ว่า ไทยลีก 1-2 โปรแกรมการแข่งขัน จะเริ่มตามกำหนดเดิม คือ 12 กันยายน แต่ขยับวันปิดให้เร็วขึ้น เพื่อให้สโมสรไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่าย โดยจากเดิมที่จะปิดฤดูกาลปกติ วันที่ 25 พฤษภาคม 2564 นั้น ไทยลีก 1 ขยับเป็นปิดวันที่ 3 พฤษภาคม 2564 และไทยลีก 2 ปิดวันที่ 27 มีนาคม 2564

ขณะเดียวกัน จะเปิดให้แฟนเข้าชม 25 เปอร์เซ็นต์ ของความจุสนาม แต่ไม่เกินนัดละ 4,000 คน โดยใช้ระบบ วิดีโอช่วยการตัดสิน (วีเออาร์) ในทุกนัด ยกเว้นวันที่มีเตะพร้อมกันหลายคู่ เพราะมีข้อจำกัดเรื่องอุปกรณ์ และบุคลากรที่ผ่านการอบรม

ส่วนเรื่องช่องทางถ่ายทอดสด หลังจาก ทรูวิชั่นส์ หมดสัญญาลง วันที่ 25 ต.ค.63 นั้น พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า จะมีฟรีทีวี 3-4 ช่อง รับช่วงต่อ รวมทั้งแพลตฟอร์มต่างๆ แต่การถ่ายทอดสดทางทีวีของไทยลีก 1 จะไม่ครบทุกคู่ ส่วนไทยลีก 2 จะไม่มีถ่ายทอดสด เป็นไปตามข้อจำกัดของแต่ละช่อง ส่วนจะมีช่องไหนนั้น ทางทีวีจะรอให้ทีวีแถลงข่าวเอง ทั้งนี้ สมาคมฯและบริษัท ไทยลีก จำกัด พยายามจัดโปรแกรมไม่ให้ทับซ้อน และต่อไปอาจมีเกมวันจันทร์ หรือมันเดย์ไนท์

Advertisement

ด้านนายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า  การที่เลื่อนโปรแกรมไทยลีกให้เร็วขึ้น นอกจากช่วยค่าใช้จ่ายสโมสรแล้ว ยังเป็นการอำนวยให้ทีมชาติไทย เตรียมตัวด้วย เพราะศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก คาดว่าจะแข่งต่อเดือนมีนาคมกับมิถุนายน และช่วงนั้นอาจจะมีฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ ที่เลื่อนจากปลายปีนี้ด้วย โดยครึ่งปีหลังอาจมีเกมกลางสัปดาห์ 2 ครั้ง

รายงานข่าวระบุด้วยว่า สำหรับโปรแกรมการแข่งขันนั้น ในไทยลีก 2 หลังจากปิดฤดูกาลปกติ วันที่ 27 มีนาคม 2564 การเพลย์ออฟเลื่อนชั้น ทีมอันดับ 3-6 จะเตะวันที่ 4-25 เมษายน 2564 ขณะที่ฟุตบอล “เอฟเอคัพ” จะเตะรอบแรก 30 กันยายน และชิงชนะเลิศ วันที่ 10 เมษายน 2564 ขณะที่ “เอเอฟเอฟ ซูซูกิคัพ” คาดว่าจะเตะ 11 เมษายน-3 พฤษภาคม 2564 แต่ต้องรอการยืนยัน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image