‘นิชิโนะ’ไม่ใช้แข้งอาชีพไปซีเกมส์ แต่รอจัดชุดใหญ่บู๊ ‘ซูซูกิคัพ’ ปีหน้า
หลังจากที่ สหพันธ์ฟุตบอลอาเซียน (เอเอฟเอฟ) ประกาศเลื่อนวันแข่งขัน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 จากเดิมที่วางไว้ในเดือนเมษายน พ.ศ.2564 ออกเป็นวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2564-1 มกราคม พ.ศ.2565 แทนนั้น
ผู้สื่อข่าวสอบถาม “เลขาโจ” นายพาทิศ ศุภะพงษ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ถึงเรื่องโปรแกรมการแข่งขันต่างๆ ที่จะต้องปรับอีกครั้งหนึ่ง ได้รับคำตอบว่า ทางบริษัท ไทยลีก จำกัด จะมีการประชุมเรื่องของตารางแข่งขันที่เหลืออยู่ในฤดูกาล 2020/21 นี้ ที่จะไม่มีซูซูกิ คัพ แล้ว ส่วนในเรื่องของการเลื่อนไปแข่งเดือนธันวาคม พ.ศ.2564 เป็นเรื่องของโปรแกรมฤดูกาลหน้า
นายพาทิศ กล่าวต่อว่า ข้อดีของการที่เอเอฟเอฟ ประกาศเลื่อนการแข่งขันก่อนนั้น คือทำให้มีการเตรียมการได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องขยับโปรแกรมกันหลายรอบอีกทั้งในช่วงเดือนเมษายน พ.ศ.2564 นั้นจะตรงกับช่วงที่เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2021 แข่งขันในรอบแบ่งกลุ่ม อาจจะทำให้ทีมชาติไทยขาดผู้เล่นจาก 4 สโมสรที่ต้องไปเล่นในถ้วยเอเชีย
ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อถึงการแข่งขันซูซูกิ คัพ ที่เลื่อนไปจะต่อเนื่องกับกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม ซึ่งต้องใช้ทีมชาติไทย ชุดยู-22 ลงเล่น นั้น นายพาทิศ กล่าวว่า เรื่องของโปรแกรมยังไม่มีความชัดเจนมาก กว่าจะถึงตอนนั้นอาจจะมีการปรับเปลี่ยนได้ แต่ก็จะทำตารางแข่งออกมาให้ดีที่สุด เพียงแต่การหยุดลีก 2 เดือน เพื่อการแข่งขัน 2 รายการนี้คงเป็นเรื่องยาก
“ตามคอนเซปต์ของอากิระ นิชิโนะ นั้น ในส่วนของซีเกมส์ จะพยายามไม่ใช้นักกีฬาอาชีพเท่าไหร่ เนื่องจากว่าซีเกมส์หนก่อน ได้เห็นแล้วว่าเป็นเรื่องยากที่จะใช้นักกีฬาอาชีพเพราะต้องลงเล่นแบบวันเว้นวัน มันไม่เหมาะกับนักกีฬาอาชีพ แต่ในส่วนของซูซูกิคัพนั้นจะเน้นชุดใหญ่แบบเต็มที่ และมั่นใจว่าจะสามารถใช้งานผู้เล่นตัวหลักจากสโมสรได้ด้วย ทางไทยลีกก็จะปรับปฏิทินให้เอื้อกับซูซูกิ คัพ มากกว่า”
นายพาทิศ กล่าวเสริมว่า อย่าไรก็ตาม ถึงจะมีการปรับแล้ว ก็อาจจะมีการปรับตารางแข่งขันได้อีก ดังนั้นจะบอกว่าลงตัวชัดเจนคงทำไม่ได้ เพราะซูซูกิ คัพ ก็มีการปรับการแข่งขันอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นที่เราทำได้คือการวางโปรแกรมเน้นลีกในประเทศให้สมบูรณ์ก็พอ เพราะฟุตบอลระดับนานาชาติยังมีปรับอีกเยอะ
พ่อบ้านสมาคมลูกหนัง กล่าวปิดท้ายว่า ในส่วนของฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 2 ที่ยังเหลืออีก 3 นัดสำหรับทีมชาติไทยนั้น ก็ยังมีโอกาสเป็นไปได้หมดว่าจะเลื่อนออกไปอีกหรือไม่ แต่ทางสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) กำหนดแล้วว่าจะต้องเตะให้จบรอบ 2 ภายในเดือนมิถุนายน ไม่ว่าเดือนมีนาคมจะเตะได้หรือไม่ก็ตาม ก็เป็นหน้าที่ของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ที่จะต้องมาวางกันอีกครั้ง จะเป็นการแข่งขันเหย้า-เยือน ตามเดิม หรือเป็นสนามกลาง ก็ต้องคุยกัน ซึ่งแต่ละกลุ่มอาจจะไม่เหมือนกัน
