‘กรวีร์’ ชี้ ‘ท่าเรือ’ มีเวลาปรับปรุงสนามให้ผ่านมาตรฐานเอเอฟซี
จากกรณีที่ “สิงห์เจ้าท่า”การท่าเรือ เอฟซี เตรียมขอใช้ราชมังคลากีฬาสถาน เป็นสนามเหย้า ในการลงเล่นศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก เนื่องจากว่า แพท สเตเดียม รังเหย้าของตัวเองนั้นไม่ผ่านมาตรฐานเรื่องไฟส่องสว่างสำหรับลงเล่นในรอบแบ่งกลุ่มนั้น
“บิ๊กแชมป์” นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รองประธานบริหารบริษัท ไทยลีก จำกัด เปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับหนังสือยืนยันอย่างเป็นทางการจากการท่าเรือ ได้เห็นจากในข่าวเท่านั้น ซึ่งถ้ามองเรื่องมาตรฐานสนามแข่งคิดว่าแพท สเตเดียม ไม่น่ามีปัญหา เพราะทางการท่าเรือเคยใช้เล่นรอบคัดเลือก รอบสอง เมื่อปีที่ผ่านมาแล้ว
บิ๊กแชมป์ กล่าวต่อว่า ปัญหาของแพท สเตเดียม มีเพียงเรื่องระบบไฟฟ้าส่องสว่างเท่านั้น ซึ่งทางเอเอฟซีอนุญาตให้ทุกทีมสามารถปรับปรุงได้จนถึงก่อนแข่งขันนัดแรก ซึ่งจะมีเวลาให้เตรียมตัวถึง 5 เดือนด้วยกัน จึงน่าจะมีเวลาเพียงพอที่จะทำให้ผ่านมาตรฐานได้ ส่วนการใช้ราชมังคลากีฬาสถาน คิดว่าเป็นแผนสำรองมากกว่า
“โดยส่วนตัวผมมองว่าการท่าเรือ สมควรจะใช้สนามแพท เป็นรังเหย้า ลองจินตนาการถึงการเล่นในแพท สเตเดียม ของการท่าเรือ สำหรับฟุตบอลรายการใหญ่ระดับทวีปนั้นบรรยากาศจะเป็นอย่างไร ผมคิดว่าน่าจะสนุกกว่าการเล่นที่ราชมังคลาฯ หลายเท่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการส่งเสียงเชียร์และการกดดันคู่แข่งของแฟนบอลการท่าเรือ และผมเชื่อด้วยว่าการท่าเรือ คงอยากเล่นที่บ้านของตัวเองมากกว่า”
นายกรวีร์ กล่าวปิดท้ายว่า อย่างไรก็ตามไทยลีก ได้ส่งหนังสือไปแจ้งกับทั้ง 4 สโมสรที่ได้สิทธิ์เล่นเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2021 เรียบร้อยแล้วว่าให้ส่งเอกสาร รายชื่อนักกีฬา และทีมงาน รวมถึงสนามที่จะใช้แข่งขัน โดยทั้ง 4 สโมสรต้องส่งเอกสารทั้งหมดภายในวันที่ 18 ธันวาคม ถึงตอนนั้นคงรู้ชัดเจนว่าแต่ละทีมนั้นใช้สนามใดบ้าง ซึ่งไทยลีก จะส่งเอกสารให้กับเอเอฟซี ในวันที่ 22 ธันวาคม
สำหรับตัวแทนทีมจากลีกไทย ที่ได้สิทธิ์เล่นเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2021 จำนวน 4 ทีมประกอบด้วย “กระต่ายแก้ว”บีจี ปทุม ยูไนเต็ด กับ การท่าเรือ เอฟซี เล่นรอบแบ่งกลุ่ม) และ “กว่างโซ้งมหาภัย”สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด กับ “ราชันมังกร”ราชบุรี เอฟซี เล่นรอบคัดเลือก
