ไทยลีกเตรียมเสนอแผนเตะแบบปิด ชี้เตะสนามกลางเป็นเรื่องยาก แต่ยันไม่ยุติลีกแน่นอน
หลังจากที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และบริษัท ไทยลีก จำกัด ได้มีการประชุมร่วมกับสโมสรในไทยลีก1-2-3 ซึ่งได้รับผลกระทบการจัดการแข่งขันจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ โดยได้ข้อสรุปว่าเลื่อนการแข่งขันไทยลีก 1-2 ในเดือนมกราคมออกไป และตัดจบการแข่งขันไทยลีก 3 นั้น
ล่าสุด “บิ๊กแชมป์” นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานบริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด ได้เปิดแถลงข่าวผ่านวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ เพื่อชี้แจงและตอบคำถามถึงประเด็นต่างๆ โดยกล่าววว่า ทางไทยลีกนั้นได้เรียกประชุมทุกฝ่ายแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นคือการที่แต่ละจังหวัดมีมาตรการในเรื่องของการเดินทางข้ามจังหวัดต้องมีการกักตัว ทำให้ไม่สามารถจัดการแข่งขันได้ จึงได้มีมติเลื่อนการแข่งขันไทยลีก 1-2 ออกไป ส่วนไทยลีก 3 เนื่องจากเหลือการแข่งขันแค่ 5-6 นัด บวกกับสถานการณ์ต่างๆ ที่ไม่แน่นอน จึงมีมติตัดจบการแข่งขันในรอบปกติแล้วแข่งขันต่อในรอบแชมเปี้ยนส์ลีกเลย
“ในช่วงกลางเดือนมกราคมนี้ จะมีการประเมินกันอีกครั้งหนึ่ง ถ้าหากว่าสถานการณ์ดีขึ้น อาจจะกลับมาทำการแข่งขันกันต่อทันที ซึ่งสิ่งที่จะกระทบในตอนนี้แค่เรื่องของกำหนดการจบฤดูกาล ที่เคยวางเอาไว้ในช่วงวันที่ 20 มีนาคม จะต้องเลื่อนออกไปจบในช่วงกลางเดือนเมษายนแทน” นายกรวีร์ กล่าว
รักษาการประธานไทยลีก กล่าวต่อว่า เรายังคงมองหามาตรการที่จะจัดการแข่งขันไปให้จบฤดูกาลให้ได้ เนื่องจากว่าในไทยลีก1-2 นั้นมีเรื่องเงินสปอนเซอร์เข้ามาเป็นส่วนร่วมด้วย โดยทางไทยลีกเตรียมหามาตรการต่างๆ นำไปเสนอกับทางศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ถึงมาตรการการแข่งขันแบบปิด นอกจากนี้ก็จะศึกษามาตรการต่างๆ ของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย ที่จัดการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ในช่วงที่ผ่านมา มีเงื่อนไขหรือมาตรการใดๆ บ้าง เรื่องรูปแบบการแข่งขันแบบสนามกลางนั้น ยังมองว่าเป็นเรื่องยาก เพราะแต่ละทีมมีนักเตะรวมผู้เกี่ยวข้องราวๆ 30-50 คน จากลีกละ 16 ทีม จะต้องมองหาที่พักสำหรับควอรันทีน, การเดินทาง, สนามซ้อม, สนามแข่ง กับจำนวนนัดที่เหลือมากกว่า 100 นัดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างไรก็ตามจะไม่มีการพิจารณาถึงเรื่องของการยุติการแข่งขัน ถ้าหากไม่จำเป็นจะไม่มีการยุติลีกโดยเด็ดขาด
ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงความถี่ในการตรวจโควิด-19 หากจะกลับมาแข่งขันกันใหม่นั้น นายกรวีร์ กล่าวว่า ทางไทยลีกเสนอแผนการจัดการแข่งขันแบบปิดไป ในนั้นจะมีเรื่องเงื่อนไขการตรวจหาเชื้อ ซึ่งไม่ใช่อำนาจของไทยลีกหรือสมาคมฯ ในการตัดสินใจว่าจะให้ตรวจมากแค่ไหน อยู่ที่ศบค.กำหนดและต้องทำตามเท่านั้น
บิ๊กแชมป์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของเงินสนับสนุนทีม แต่ละทีมได้รับเงินสนับสนุนงวดแรกจากสมาคมฯไปแล้ว บวกกับตอนนี้ทางการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้อนุมัติเงินสนับสนุนกีฬาอาชีพ โดยทีมไทยลีก1-2 จะได้รับทีมละ 1 ล้านบาท ส่วนไทยลีก 3 ได้ทีมละ 5 แสนบาท แต่ทางสมาคมฯ กำลังดำเนินการเจรจากับกกท.เพื่อขอให้ทีมไทยลีก 3 ได้รับ 1 ล้านบาท แต่ทั้งนี้สโมสรจะต้องรักษาสิทธิของตัวเองในการเข้าไปเขียนคำร้องที่กกท.ด้วย ซึ่งเงินก้อนนี้จะเป็นเงินที่สโมสรได้รับโดยตรง เงินส่วนที่เหลือนั้น ทางบริษัท เซนส์ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ จำกัด กำลังเจรจาเรื่อเงินที่จะได้รับจากการถ่ายทอดสดทางฟรีทีวีอยู่ ซึ่งยังไม่ทราบจำนวนเงินที่จะได้ เดิมทีมีการนัดคุยในช่วงเดือนมกราคม แต่ก็เจอปัญหาโควิด-19 ระลอกใหม่เข้ามา ทำให้ต้องใช้เวลาอีกพอสมควรกว่าจะยืนยันได้ว่าแต่ละทีมจะได้เท่าไหร่ แต่ตอนนี้สโมสรก็จะได้เงินจากการนำสัญญาณที่สมาคมฯ ผลิตให้ไปถ่ายทอดสดผ่านทางช่องทางต่างๆ แล้ว ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าจากปัญหาที่เกิดขึ้นจะทำให้แต่ละทีมได้รับเงินไม่เท่าเดิมแน่นอน
“การเลื่อนครั้งนี้กับผลกระทบปฏิทินแข่งขันฤดูกาลต่อไปนั้น ได้มีการกำหนดคร่าวๆ แล้วว่าจะเปิดฤดูกาลช่วงเดือนสิงหาคม จบเลกแรกเดือนธันวาคม เพื่อเริ่มเลกสองและเปิดตลาดซื้อขายเดือนมกราคม ส่วนซีเกมส์ กับเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ถ้าหากจะหยุดลีกเพื่อ 2 รายการนี้ อาจจะต้องเพิ่มเกมกลางสัปดาห์มา”
บิ๊กแชมป์ กล่าวปิดท้ายว่า ในส่วนของไทยลีก 3 รอบแชมเปี้ยนส์ลีกนั้น จะแบ่งออกเป็น 2 โซน โซนละ 6 ทีม แข่งขันแบบพบกันหมด ขณะที่ประเด็นเรื่องที่ทีมที่ตกชั้นจะต้องถูกลดเงินสนับสนุนในปีหน้านั้น เนื่องจากแข่งขันไม่จบทำให้สโมสรเรียกร้องว่าขอให้พิจารณาใหม่ ส่วนเงินหนุนปีหน้านั้นถ้าได้รับเงินสปอนเซอร์มากขึ้นจะได้รับเงินหนุนเพิ่มมากขึ้นแน่นอน ส่วนอเมเจอร์ลีกนั้น ต้องรอดูไปก่อน เนื่องจากว่ามีหลายร้อยทีมและพื้นที่กระจาย จึงต้องดูว่าจะทำการแข่งขันได้หรือไม่
