‘ดุสิต’ รับคุม ‘ท่าเรือ’ หนนี้ความกดดันเพิ่มขึ้น หวั่นโควิด-19 ทำอดเจอลูกทีม

‘ดุสิต’ รับคุม ‘ท่าเรือ’ หนนี้ความกดดันเพิ่มขึ้น หวั่นโควิด-19 ทำอดเจอลูกทีม

หลังจากที่ “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือ เอฟซี ภายใต้การนำทีมของ “มาดามแป้ง” นางนวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสร ได้แต่งตั้ง “โค้ชโอ่ง” ดุสิต เฉลิมแสน อดีตกุนซือที่เคยคุมทีมเมื่อปี 2013-14 กลับมาคุมทีมเป็นคำรบสองนั้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าว “มติชน” สอบถามไปยังอดีตแบ๊กซ้ายดาราเอเชีย ถึงการกลับถิ่นเก่าครั้งนี้ เปิดเผยว่า รู้สึกดีที่ได้กลับมาคุมทีมการท่าเรืออีกครั้งหนึ่ง จะได้เจอกับบรรยากาศเก่าๆ แต่ครั้งนี้คงไม่เหมือนครั้งก่อนที่คุมทีม เพราะแบกรับความกดดันมากขึ้น ทีมท่าเรือนั้นเปลี่ยนไปจากสมัยที่ตัวเองเคยอยู่ ความคาดหวังของคนเปลี่ยนไปฉะนั้นก็มีความยากขึ้นแน่นอน ถึงจะมีกระแสแฟนบอลที่ดี แต่สุดท้ายก็ต้องอยู่ด้วยผลงาน ต้องทำออกมาให้ดีจึงจะมีความสุขทุกฝ่าย

โค้ชโอ่ง กล่าวต่อว่า หลังจากที่ได้เข้าไปเซ็นสัญญาเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา ก็ยังไม่มีโอกาสได้เจอกับ “มาดามแป้ง” ประธานสโมสรเลย ดังนั้นจึงยังไม่ได้คุยรายละเอียดมากนัก แต่เข้าใจอยู่แล้วว่าการมาในครั้งนี้ต้องการให้พาทีมประสบความสำเร็จ

ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อว่า จากที่ติดตามฟอร์มมานั้น ทีมการท่าเรือมีจุดอ่อน-จุดแข็งอย่างไรบ้าง นายดุสิต กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นคนทำทีม อยากเข้าไปสัมผัสกับนักกีฬาด้วยตัวเองก่อน แล้วค่อยมาดูกันอีกทีว่าทีมนั้นมีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างใด ถ้าฟังจากคำวิจารณ์หรือวิเคราะห์คงชี้ชัดไม่ได้

Advertisement

“สิ่งที่กังวลตอนนี้คือเรื่องของโควิด-19 ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ต้องรอดูคำสั่งว่าจะสามารถซ้อมได้หรือไม่ เพราะถ้าหากเหตุการณ์ย่ำแย่ลงจริงๆ ก็อาจจะต้องเลื่อนแข่งขันออกไปอีก ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่ได้เจอกับนักกีฬาเลย รอลุ้นผลตรวจโควิด-19 อีก 1-2 วัน ถ้าไม่มีปัญหาใดๆ ก็หวังว่าจะได้เข้ามาซ้อมในสนามร่วมกัน”

โค้ชโอ่ง กล่าวปิดท้ายว่า นักเตะการท่าเรือชุดนี้ที่เคยร่วมงานกันก็จะมีแค่ “ตั้ม” ธนบูรณ์ เกษารัตน์ แต่ก็เจอกันไม่นาน เพราะหลังจากเข้าไปคุมทีมบีจี ปทุม ได้สักสัปดาห์เดียว ธนบูรณ์ก็ย้ายมาอยู่การท่าเรือแล้ว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image