‘กรวีร์’ รอลุ้น ศบค.ให้คุย 1-2 สัปดาห์นี้ ชี้คำสั่งล็อกดาวน์เพิ่มไม่มีผล แค่ต้องปรับแผนเล็กน้อย

‘กรวีร์’ รอลุ้น ศบค.ให้คุย 1-2 สัปดาห์นี้ ชี้คำสั่งล็อกดาวน์เพิ่มไม่มีผล แค่ต้องปรับแผนเล็กน้อย

หลังจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ประกาศเพิ่มพื้นที่ควบคุมสูงสุดจาก 13 จังหวัด เป็น 29 จังหวัด ซึ่งมีมาตรการปิดสถานที่ 10 ประเภทกิจการ รวมไปถึงสนามกีฬาฟุตบอลด้วยนั้น

สำหรับพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดที่มีมาตรการที่เกี่ยวโดยตรงกับกิจกรรมกีฬา คือ ห้ามรวมกลุ่มมากกว่า 5 คน และปิดสนามกีฬา มีเพิ่มรวมเป็น 29 จังหวัด ซึ่งจากเดิม 13 จังหวัด กรุงเทพมหานคร, นครปฐม, นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ, สมุทรสาคร, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, พระนครศรีอยุธยา, นราธิวาส, ปัตตานี, ยะลา, สงขลา ในไทยลีก 1 มีถึง 7 สโมสรอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว

และกับ 16 จังหวัด ที่ประกาศล่าสุด กาญจนบุรี, ตาก, นครนายก, นครราชสีมา, ประจวบคีรีขันธ์, ปราจีนบุรี, เพชรบุรี, เพชรบูรณ์, ระยอง, ราชบุรี, ลพบุรี, สิงห์บุรี, สมุทรสงคราม, สระบุรี, สุพรรณบุรี และอ่างทอง ก็จะมีอีก 4 สโมสรไทยลีก 1 ที่ติดร่างแห คือ นครราชสีมา มาสด้า, พีที ประจวบ, ราชบุรี มิตรผล และสุพรรณบุรี เอฟซี

ทำให้ถึงตอนนี้ สำหรับไทยลีก 1 จาก 16 สโมสร มีเพียง 5 สโมสร ที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่สีแดงเข้ม ควบคุมสูงสุด คือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, สิงห์ เชียงราย และ 3 น้องใหม่ หนองบัว พิชญ, เชียงใหม่ ยูไนเต็ด และขอนแก่น ยูไนเต็ด

Advertisement

“บิ๊กแชมป์” นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานบริหารบริษัท ไทยลีก จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้คุยกับสโมสรเมื่อสัปดาห์ก่อนก็จะต้องรอเข้าไปคุยกับ ศบค. คิดว่าภายใน 1-2 สัปดาห์นี้จะต้องได้คิวเข้าไปคุยกับ ศบค. ต่อให้เพิ่มจังหวัดล็อกดาวน์มา หรือล็อกดาวน์ทั้งประเทศก็ไม่ได้มีผลอะไร เพราะอย่างไรก็ต้องทำแผนส่งอยู่แล้วแค่ต้องมาปรับแผนงานต่างๆ แล้วเอามาตรการนั้นไปเสนอกับ ศบค.เป็นอันดับแรก ให้มีแนวทางในการปฏิบัติ แล้วหลังจากนั้นก็ให้แต่ละทีมค่อยเอาแผนงานต่างๆ ไปคุยกับทางจังหวัดต่อไป

บิ๊กแชมป์กล่าวต่อว่า เคสที่ร้ายแรงที่สุดก็คือไม่ได้รับอนุมัติแผนงานต่างๆ ที่เสนอไป และก็ต้องเลื่อนการแข่งขันออกไปเรื่อยๆ แต่ว่าโจทย์สำคัญคือทำอย่างไรให้ฟุตบอลกลับมาแข่งขันให้ได้ และก็ยังเชื่อว่าทาง ศบค.เองคงไม่ถึงกับขนาดว่าจะไม่ให้จัดการแข่งขัน แต่อยู่ที่จะวางมาตรการต่างๆ ว่ามีเงื่อนไขอย่างไรบ้างเท่านั้น

“โจทย์ใหญ่ของเราคือฟุตบอลจะต้องเตะให้ได้ แต่จะเตะแบบไหน ได้เตะเมื่อไหร่ ต้องมาว่ากันอีกที เราคำนึงถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายตั้งแต่การประกาศมาตรการรอบแรกแล้ว ต่อให้ล็อกทั้งประเทศก็ไม่ได้ต่างกัน เพราะมันเสียหายอยู่ตั้งแต่ต้นแล้ว อยู่ที่เราจะต้องเตรียมแผนเข้าไป ผ่าน ศบค.ชุดใหญ่ เหมือนกับที่เคยทำแผนส่งไปในการจัดการแข่งขันรายการอื่นๆ ก็ต้องคุยกันว่าจะทำอย่างไรให้รัดกุมมากพอ” นายกรวีร์กล่าวปิดท้าย

ทั้งนี้ กำหนดการใหม่ของฟุตบอลไทยลีก 1 จะกลับมาแข่งขันกันในวันที่ 3 กันยายน และไทยลีก 2 กลับมาแข่งขันวันที่ 4 กันยายน รวมถึงฟุตบอลไทยแลนด์ แชมเปียนส์ คัพ แข่งขันวันที่ 1 กันยายน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image