‘ชนาธิป’ ลุ้นคัมแบ๊กเกมดวล ‘นาโกย่า’ ยังหวังพาทีมจบท็อป3 ไปเล่นถ้วยเอเชีย
“เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ดาวเตะทีมชาติไทยของ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร มีอาการบาดเจ็บจนไม่มีชื่อในเกมที่ทีมเปิดบ้านเอาชนะ เอฟซี โตเกียว 3-2 ในศึกเมจิ ยาสุดะ เจวันลีก ที่สนามซัปโปโร โดม เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม
โดยหลังจากเกมการแข่งขัน ชนาธิป ได้เปิดเผยว่า อาการบาดเจ็บดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นในเกมที่เจอกับ อุราวะ เรดส์ ไดมอนส์ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา จากจังหวะยืดขาที่เกินระยะในช่วงปลายครึ่งแรก คิดว่ามีอาการฉีกที่ขาหนีบแต่ก็ฝืนลงเล่นต่อในครึ่งหลังก่อนที่จะทำแอสซิสต์เป็นประตูชัยให้ทีมได้ อย่างไรก็ตามคิดว่าพักไม่น่าเกิน 2 สัปดาห์ ถ้าไม่ใช่เกมเยือน โออิตะ ทรินิตะ ก็อาจจะเป็นเกมกับนาโกย่า แกรมปัส เอท ที่กลับมาลงสนามได้ จะรอให้ชัวร์ก่อน
ชนาธิป กล่าวต่อว่า เรื่องผลงานของทีมในตอนนี้ขึ้นมาอยู่อันดับ 7 ห่างจากอันดับ 3 ที่เป็นโควต้าเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อยู่ 6 คะแนนเท่านั้น ก็เชื่อว่าทีมนั้นจะสามารถขึ้นไปจบอันดับ 3 ได้ ขณะที่ผลงานตัวเองในปีนี้ หวังว่าในทุกเกมที่ลงสนามจะสามารถมีสถิติยิงประตูหรือแอสซิสต์ให้ได้ทุกนัด รวมถึงเป้าหมายสำคัญคือจะพยายามไม่ให้มีอาการบาดเจ็บ เพราะช่วงหลังบาดเจ็บบ่อยมากๆ
จากนั้นมีการถามถึงเรื่องของอนาคตในอีก 5 ปีข้างหน้าของชนาธิป ซึ่งเจ้าตัวตอบว่า การอยู่ทีมใดทีมหนึ่งนานๆ มันก็จะเกิดความเคยชินและอยากหาความท้าทายใหม่ๆ แต่ตอนนี้สัญญายังคงมีอยู่กับสโมสรคอนซาโดเล่ ซัปโปโร ถ้าหากวันใดวันหนึ่งสัญญาหมดลง ก็ยังไม่สามารถบอกอนาคตตัวเองได้ พยายามมองแต่ละปีว่าจะเป็นอย่างไรมากกว่า และโอกาสที่จะเข้ามาเป็นอย่างไรบ้าง แต่แน่นอนว่าอยากหาความท้าทายใหม่ๆ ให้กับตัวเอง เพื่อให้มีแรงบันดาลใจใหม่ๆ อยู่เสมอ สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาและโอกาสด้วย
ดาวเตะทีมชาติไทย พูดถึงบรรดาดาวรุ่งของซัปโปโรที่ก้าวขึ้นมาทำผลงานได้ดีหลายคน ทั้ง ชุนตะ ทานากะ, ทาคุโร่ คาเนโกะ, สึโยชิ โอกาชิวะ ว่า นักเตะเหล่านี้คือคนที่สามารถเข้ามาช่วยทีมได้ทุกคน เป็นการเติมเต็มที่ถูกต้อง ทั้งอายุน้อยแล้วก็มีฝีเท้าดี สามารถใช้งานในระยะยาวได้ อีกทั้งทุกคนเป็นผู้เล่นที่ดี แต่ละคนก็มีความแตกต่างในการเล่น สามารทดแทนกันได้หมด
ชนาธิป กล่าวปิดท้ายว่า ตอนนี้ก็คิดถึงครอบครัว เพราะไม่ได้เจอกันมานาน อยากให้ดินทางมาเยี่ยมที่ประเทศไทยบ้าง แต่ต้องรอสถานการณ์ให้ดีกว่านี้ก่อน เพราะเชื่อว่าคนอยากมาเที่ยวญี่ปุ่นเยอะ ส่วนตัวเองนั้นหลังเจลีกปิดฤดูกาล วันที่ 4 ธันวาคม ก็จะรอดูสถานการณ์ที่ประเทศไทยอีกทีก่อน ถ้ากลับมาแล้วต้องกักตัวอาจจะต้องคิดดูอีกที
