‘ชนาธิป’ ลั่นคว้าแชมป์ ‘ซูซูกิ’ เป็นของขวัญปีใหม่ชาวไทย
“เมสซี่เจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ดาวเตะ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ของสโมสรคอนซาโดเล่ ซัปโปโร เปิดเผยถึงความพร้อมก่อนเดินทางมาช่วยทีมชาติไทย ในศึก “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ” ที่ประเทศสิงคโปร์ว่า สภาพร่างกายตอนนี้หลังจากเปลี่ยนโค้ชกายภาพเป็นชาวบราซิล ก็สมบูรณ์เต็มร้อย ลงเล่น 90 นาทีมาหลายนัด ส่วนนัดล่าสุดที่โดนเปลี่ยนตัวออก เพราะโค้ชให้พัก และหวังว่านัดสุดท้ายจะไม่มีอาการบาดเจ็บอะไร
“นัดสุดท้ายก็ไม่มีผลต่ออันดับแล้ว โค้ชไม่ต้องให้ผมลงก็ได้ แต่ก็คุยกับโค้ชแล้ว” ชนาธิป กล่าวอย่างอารณ์ดี โดยตอนนี้ คอนซาโดเล อยู่อันดับ 10 ที่จะเป็นอันดีสุด หรือหากตกลงมาก็ไม่เกินการจบที่ 12
ชนาธิป กล่าวถึงการรับใช้ทีมชาติว่า อยากมาเล่นอยู่แล้วเพราะตัวเองก็ดังขึ้นมาเพราะทีมชาติ เสียดายที่ช่วงที่ผ่านมามีอาการบาดเจ็บเลยไม่ได้มาเล่นเท่านั้น รู้สึกตื่นเต้นเพราะดูจากรายชื่อมีคนที่สนิทหลายคน ส่วนการเล่นชิงแชมป์อาเซียน 3 ครั้งที่ผ่านมาของตัวเอง ไม่เคยเหนือกว่าคู่แข่ง แต่ละทีมล้วนแต่หัวกระทิทั้งนั้น เป็นการแข่งขันที่ยาก ไม่ใช่หลอกคู่แข่งเหมือนเด็กอยู่แล้ว
“เกมแรกกับติมอร์เลสเตจะยากสุด เพราะต้องเรียกความมั่นใจ ส่วนเป้าหมายแน่นอนว่าต้องเป็นแชมป์ แต่ก็มองไปทีละขั้น ปัจจัยสำคัญคือต้องช่วยกันเล่น เชื่อใจโค้ช เพราะเวลาซ้อมไม่เยอะ ต้องใช้ความเข้าใจกับประสบการณ์ของแต่ละคนแทน เชื่อว่าจะทำให้คนไทยมีความสุขช่วงเคาท์ดาวน์ได้
นอกจากนี้ เมสซี่เจ ยังกล่าวถึงการร่วมงานกับมาโน่ โพลกิ้ง ซึ่งเคยร่วมงานกันตอนทีมชาติยู-23 กับชุดใหญ่ ซึ่งมาโน่เคยเป็นผู้ช่วยของวิลฟรีด เชเฟอร์ ว่า ตอนที่ได้รับแต่งตั้งก็ส่งข้อความมาว่า “เรามาสร้างประวัติศาสตร์ด้วยกัน ผมมาเป็นโค้ชคุณอีกครั้ง” บอลของมาโน่นั้นเน้นเกมรุก แต่เมื่อมาทีมชาติก็คงจะเน้นรัดกุมด้วย ส่วนการเลือกนักเตะอยากให้ไว้ใจมาโน่เพราะเขาเป็นคนที่ต้องรับผิดชอบกับผลงาน จะให้ไปจัดตัวตามใจแฟนบอลคงทำไม่ได้แน่นอน อีกทั้งนี่อาจจะเป็นทัวร์นาเมนต์ตัดสินอาชีพของเขาเอง ดังนั้นต้องเชื่อมั่นในนักฟุตบอลชุดนี้ เพราะถ้าพลาดก็ต้องออก
ส่วนกรณีที่ ศึกชิงแชมป์อาเซียนนี้จะไม่มีการใช้วิดีโอช่วยตัดสิน ชนาธิป ก็กล่าวว่า เมื่อก่อนไม่หนักใจ แต่หลังๆ อาเซียนเล่นกันรุนแรง มีแถมตลอด ถ้ามีวีเออาร์ก็คงมีใบแดงปลิวว่อนแน่ๆ ดังนั้นก็เซ็งๆ บ้างที่ไม่มีวีเออาร์ในครั้งนี้
ทั้งนี้ชนาธิป จะช่วยต้นสังกัด คอนซาโดเล ซัปโปโร ทำศึกเจลีกนัดสุดท้าย เยือน โยโกฮามา เอฟซี วันที่ 4 ธันวาคม จากนั้นจะบินไปสมทบทีมที่สิงคโปร์ ซึ่งจะไม่ทันการเตะเกมแรกกับ ติมอร์เลสเต วันที่ 5 ธันวาคม แต่สามารถลงได้ในเกม 2 กับ พม่า วันที่ 11 ธันวาคม
