‘โค้ชเตี้ย’ แนะไม่รอแข้งหลักไทยลีก จัดชุดพร้อมบู๊ ‘ซีเกมส์’ เชื่อยังเข้าถึงชิงได้

‘โค้ชเตี้ย’ แนะไม่รอแข้งหลักไทยลีก จัดชุดพร้อมบู๊ ‘ซีเกมส์’ เชื่อยังเข้าถึงชิงได้

หลังจากที่ “ช้างศึกหนุ่ม” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่จะต้องเข้าแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ประเทศเวียดนาม โดยล่าสุดจากการจับสลากแบ่งสาย ปรากฎว่าทีมชาติไทยนั้นอยู่ในกลุ่มบี ร่วมกลุ่มกับ มาเลเซีย, กัมพูชา, สิงคโปร์, ลาว ส่วนกลุ่มเอ ที่มีเวียดนาม แชมป์เก่าและเจ้าภาพเป็นทีมวาง ประกอบด้วย อินโดนีเซีย, เมียนมา, ฟิลิปปินส์, ติมอร์เลสเต

ผู้สื่อข่าวสอบถามทรรศนะจาก “โค้ชเตี้ย” นายสะสม พบประเสริฐ อดีตกองกลางทีมชาติไทยและอดีตกุนซือทีมชาติไทยยู-19 กล่าวว่า สายการแข่งขันที่ออกมาไม่ถือว่าหนักมาก ทีมค่อนข้างกระจายกัน ดังนั้นไม่น่ากังวลใจเท่าไหร่ แต่ในส่วนการเตรียมตัวของทีมชาติไทย ก็ต้องมาคุยกันว่าจะเอาแบบไหน ทางเลือกมี 2 ทาง คือจะส่งไปก่อนชุดหนึ่ง แล้วที่เหลือที่เสร็จภารกิจกับสโมสรค่อยตามไป หรือจะจัดแบบที่สโมสรปล่อยตัวมาแบบดีที่สุดไปเลย 20 คน ส่วนตัวคงเลือกแบบหลังเพราะว่าจะได้มีโอกาสซ้อมกันมากขึ้น และอาจจะได้ซ้อมตั้งแต่ตอนอยู่ที่ไทยด้วยซ้ำ

โค้ชเตี้ย กล่าวต่อว่า จริงๆ อยากแนะนำว่าตอนนี้ต้องเริ่มทำงานแล้ว ในเมื่อโปรแกรมไม่ขยับให้ สัปดาห์ไหนไม่มีแข่งกลางสัปดาห์ก็เรียกนักเตะมารวมกัน จันทร์-อังคาร ให้ทำความรู้จักหรือปรับตัวกัน เพราะถ้ารอใกล้เวลาแข่ง มันก็จะกลายเป็นข้ออ้างว่าไม่มีเวลาเตรียมตัว มันอาจจะไม่ใช่แผนที่ใครๆ ทำกัน แต่ก็สามารถลองได้

กุนซือ “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี กล่าวเสริมว่า ทีมชาติไทยเคยส่งยู-19 ไปแข่งชิงแชมป์อาเซียน ยู-23 แล้วก็เข้าชิงมาได้ ทำไมถึงไม่ลองอีกครั้งในทัวร์นาเมนต์นี้ แล้วก็ทำความเข้าใจกับแฟนฟุตบอลเรื่องเป้าหมายกัน ถ้าทำความเข้าใจได้ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ ส่วนผู้ใหญ่ก็ต้องให้เข้าใจว่าโปรแกรมมันเป็นแบบนี้ สถานการณ์นี้คงไม่มีใครการันตีแชมป์ได้ ตัดใจเอาชุดผสมไปเล่นซีเกมส์ก่อน ค่อยเอาชุดดีที่สุดไปยู-23 เชื่อว่าถ้าเลือกตัวที่ดีที่สุดเท่าที่ทำได้ แต่มีเวลาซ้อมร่วมกัน ยังไงก็สู้ได้ ไม่ควรเอาไปแบบไม่เต็มทีม

Advertisement

“ต้องยอมรับในแง่ร้ายที่สุดคือเวียดนามเตรียมพร้อมมาหมดแล้ว โจทย์เราก็ยากขึ้น แถมเล่นนอกบ้านด้วย สุดท้ายอยู่ที่จะลุยกันแบบไหน เชื่อว่าทีมชาติไทยเอาอายุเกินมาช่วยแน่ เช่นกองหลังเก๋าๆ หรือเพลย์เมกเกอร์ดีๆ คงไม่ฟันธงว่าจะได้เหรียญทอง แต่ยังเชื่อว่าจะถึงชิงชนะเลิศได้” โค้ชเตี้ย กล่าวปิดท้าย

โปรแกรมของทีมชาติไทย นัดแรก พบ มาเลเซีย วันที่ 7 พฤษภาคม, นัดสอง พบ สิงคโปร์ วันที่ 9 พฤษภาคม นัดที่3 พบ กัมพูชา วันที่ 14 พฤษภาคม และนัดสุดท้าย พบ ลาว วันที่ 16 พฤษภาคม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image