กาลครั้งหนึ่ง ณ ปารีส : สิ่งสำคัญคือ ‘อย่ายอมแพ้’

กาลครั้งหนึ่ง ณ ปารีส : สิ่งสำคัญคือ ‘อย่ายอมแพ้’

คนดูทางบ้านเป็นยังไงบ้างครับ หลังจากที่ “เวฟ” วีรพล วิชุมา ตามหลังคู่แข่งลุ้นเหรียญทองแดงถึง 7 กก. หลังจบท่าสแนทช์

ซึ่งบรรดาคนที่อยู่ในสนามทั้งกองเชียร์หรือนักข่าวเอง ก็แอบหวั่นใจเหมือนกัน เพราะทุกคนตรงนี้อยากเห็นนักกีฬาประสบความสำเร็จได้เหรียญรางวัลกลับบ้านอยู่แล้ว (แอบไปได้ยินมาว่ามีกองเชียร์บางคนถึงขั้นออกจากสนามก่อนไม่รอดูท่าคลีนแอนด์เจิร์กเลยด้วย น่าตีจริงๆ)

แต่หลายๆ ครั้งการคว้าเหรียญรางวัลในโอลิมปิกเกมส์ มันไม่ได้พึ่งแค่ฝีมือ หรือความแข็งแกร่งของนักกีฬาเพียงอย่างเดียว บางครั้งมันก็ต้องมีเรื่องของโชคชะตามาเอี่ยวไว้ด้วยเช่นกัน

Advertisement

หลังจากที่เวฟออกมายกท่าคลีนแอนด์เจิร์ก ท่าถนัดของตัวเองครั้งแรกไว้ที่ 190 กก. เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เพราะ ฉือ จื้อหยง แชมป์เก่าจากจีน ที่ตอนยกท่าสแนทช์ ยกได้แบบเหนือๆ กลับเจ็บหลังจนยกคลีนฯไม่ขึ้นทั้ง 3 ครั้ง รวมถึง ฮูลิโอ มาโยร่า เปอร์เนีย จากเวเนซุเอล่าที่ลุ้นเหรียญอยู่ ก็พลาดทั้ง 3 ครั้งเช่นกัน

มันเลยทำให้ตอนเวฟกลับออกมายกครั้งที่สอง ในน้ำหนัก 194 กก. ถ้าเจ้าตัวยกขึ้น จะพลิกสถานการณ์กลับมามีลุ้นทองแดงทันที ซึ่งเวฟก็ได้ปลุกแฟนกีฬาที่เกือบหลับให้กลับมาลุ้นเขาได้อีกครั้ง

Advertisement

ซึ่งพอทำได้ เหมือนใจมันมาแล้ว ความมั่นใจที่เคยมีกลับมาอีกครั้งจนออกมายก 198 กก. ได้สำเร็จ ปาดหน้า โบซิดาห์ ดิมิตรอฟ อันดรีเยฟ จากบัลแกเรีย ไปคว้าเหรียญเงินได้เลย

และเราก็ได้เห็นภาพแห่งความปลื้มปิติของเจ้าเวฟ ที่เหมือนทรุดไปเลยตรงเวทีหลังจากยกสำเร็จ เพราะนั่นคือการันตีว่าเขามีเหรียญรางวัลที่เขาต้องการ

ต้องบอกว่าวีรพล ผ่านอุปสรรคมาพอสมควรในช่วงที่ผ่านมาจากคำที่น้องเล่าให้ฟัง ไหนจะเรื่องสภาพร่างกาย และยังมีปัญหาด้านสภาพจิตใจด้วย (น้องไม่ได้บอกอย่างชัดเจนแต่คาดกันว่าเป็นเรื่องของหัวใจ) แต่สุดท้ายเขาก็ทำให้ครอบครัวและคนไทยมีความสุขได้

เรื่องนี้สอนให้รู้เลยว่า ตราบเท่าที่เราไม่ยอมแพ้ ทุกอย่างมันเป็นไปได้หมด

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image