การกลับมาของ “โนเล่” และ “บิ๊กทรี” และอีกครั้งกับการขับเคี่ยวเพื่อเป็น “ที่สุด”

บทสรุปของศึกเทนนิสแกรนด์สแลม วิมเบิลดัน ที่ออล อิงแลนด์ คลับ ประเทศอังกฤษ เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน ชวนให้คำถามเดิมๆ ข้อถกเถียงเดิมๆ เกี่ยวกับตำแหน่งนักเทนนิสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกตลอดกาล หรือที่ชาวตะวันตกนิยมเรียกกันว่า GOAT (Greatest of All Time) รวมถึงสถิติแชมป์แกรนด์สแลมชายเดี่ยวสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ กลับมาเป็นประเด็นถกเถียงกันอีกครั้ง

เนื่องด้วย โนวัก โยโควิช อดีตมือ 1 ของโลกชาวเซอร์เบีย วัย 31 ปี คว้าแชมป์ไปครองด้วยชัยชนะเหนือ เควิน แอนเดอร์สัน มือวางอันดับ 8 ของรายการชาวแอฟริกาใต้ เป็นแชมป์ชายเดี่ยวแกรนด์สแลมรายการที่ 13 ของเจ้าตัว มากที่สุดเป็นอันดับ 4 ตลอดกาล เป็นรองเพียง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ มือ 2 ของโลกชาวสวิส (20 รายการ), ราฟาเอล นาดาล มือ 1 โลกชาวสเปน (17 รายการ) และ พีต แซมพราส ตำนานสักหลาดชาวอเมริกัน (14 รายการ)

ก่อนหน้านี้ “โนเล่” หลุดจากวงโคจรไปพักใหญ่หลังจากคว้าแชมป์ เฟร้นช์ โอเพ่น หนแรกในชีวิตเมื่อปี 2016 เพราะจู่ๆ ก็เหมือนจะชอร์ตไปดื้อๆ โดยเชื่อว่าเป็นผลจากการคว้าแกรนด์สแลมได้ครบทั้ง 4 รายการ ประกอบกับเริ่มต้นสร้างครอบครัวจน “หมดไฟ”

ต่อมายังประสบปัญหาบาดเจ็บเรื้อรังที่ข้อศอกทำให้ต้องตัดสินใจพักยาวเพื่อรักษาตัวและชาร์จไฟใหม่อีกครั้ง

Advertisement

ช่วงที่โนเล่หายหน้าจากวงการนั้น พอดีกับที่ 2 ยอดนักหวดรุ่นพี่อย่างเฟเดอเรอร์และนาดาลกลับมาผงาดในวงการอีกครั้ง โดยตลอดปี 2017 จนถึงต้นเดือนมิถุนายน รวมการแข่งขันแกรนด์สแลม 6 รายการ ปรากฏว่าเฟเดอเรอร์กับนาดาลสลับกันคว้าแชมป์คนละ 3 ครั้ง จนผลัดกันขึ้นไปครองบัลลังก์มือ 1 ของโลกคล้ายย้อนเวลากลับไปเหมือนในอดีตอีกครั้ง

ตอนที่ “เฟดเอ็กซ์” คว้าสแลมที่ 18-19-20 หลังห่างหายไปนานถึง 5 ปี สื่อและแฟนเทนนิสทั่วโลกต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า การถกเถียงเรื่อง GOAT น่าจะได้ข้อสรุปเสียที

Advertisement

แต่นาดาลไม่ยอมให้คู่ปรับตลอดกาลของตัวเองหนีห่างไปไกล เมื่อสามารถเก็บแชมป์จนระยะห่างกลับมาอยู่ที่ 3 รายการ (20 กับ 17) เหมือนเดิม อีกทั้งยังการันตีตำแหน่ง “ราชาคอร์ตดิน” ด้วยการคว้าแชมป์ เฟร้นช์ โอเพ่น ในปีนี้มาครองเป็นสมัยที่ 11 อีกด้วย

ตอนที่ “แชมป์เก่า” เฟเดอเรอร์ เต็งหนึ่งแชมป์วิมเบิลดัน พลาดท่าพ่ายเควิน แอนเดอร์สัน ตกรอบก่อนรองชนะเลิศอย่างพลิกความคาดหมาย หลายคนพุ่งความสนใจไปที่นาดาล เพราะมองว่าถ้าเขาคว้าแชมป์รายการนี้ได้สำเร็จ จะทำให้ระยะห่างจำนวนแชมป์รวมเข้ามาใกล้เคียงกันมากๆ

แต่สุดท้ายนาดาลก็มาแพ้ให้โนเล่ในรอบตัดเชือกหลังจากดวลมาราธอนกันถึง 5 เซตแบบข้ามวัน

การคว้าแชมป์แกรนด์สแลมที่ 13 ของโนเล่ทำให้ชื่อของเขากลับมาอยู่บนแผนที่สักหลาดโลกอีกครั้ง พร้อมๆ กับประเด็นถกเถียงเรื่อง GOAT ที่ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีก

หากวัดกันในแง่พรสวรรค์ ความหลากหลายของเกม และความคงกระพันแล้ว แน่นอนว่า โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ ที่วันนี้อายุปาเข้าไป 36 ปี ยังยืนหยัดอย่างแข็งแกร่ง และดูจะมีภาษีดีกว่าคนอื่นๆ

แต่ถ้านับกันเฉพาะเรื่องตัวเลขและสถิติล้วนๆ ก็อาจจะต้องคิดถึงความน่าจะเป็นหลากหลายรูปแบบในอนาคตเผื่อไว้ด้วย

เฟเดอเรอร์ได้แชมป์มากกว่าคนอื่นๆ จริง แต่ด้วยอายุขนาดนี้ ไม่มีอะไรการันตีว่าเขาจะเล่นต่อไปได้อีกนานขนาดไหน

นาดาลอายุน้อยกว่าเฟเดอเรอร์เกือบ 5 ปีเต็มๆ มีโอกาสยืนระยะได้นานกว่า ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย ซึ่งในช่วงเวลานี้ ด้วยฝีมือบนคอร์ตดินที่ไร้เทียมทาน เชื่อว่าเขายังมีโอกาสหยิบแชมป์เฟร้นช์ โอเพ่น ได้อีก 1-3 ครั้ง รวมถึงลุ้นสแลมฮาร์ดคอร์ตอื่นๆ ด้วย อย่างไรก็ตาม การตกรอบวิมเบิลดันปีนี้อาจเป็นการทำโอกาสทองเพื่อแซงเฟดเอ็กซ์หลุดมือไปก็เป็นได้

สมมุติว่าพอแขวนแร็กเกตแล้ว นาดาลได้แชมป์แกรนด์สแลมมากกว่าเฟเดอเรอร์ ก็อาจมีประเด็นถกเถียงกันต่อว่า กว่าครึ่งนั้นมาจากเฟร้นช์ โอเพ่น ล้วนๆ จะเรียกเขาเป็น GOAT ได้อย่างเต็มปากเต็มคำหรือไม่ หรือต้องหมายเหตุว่า GOAT ของคอร์ตดินเป็นหลักกันแน่?

แม้แต่สถิติเฮดทูเฮดระหว่าง 2 คนนี้ นาดาลเหนือกว่าด้วยตัวเลขชนะ 23 แพ้ 15 ถ้าตัดคอร์ตดินออกไป เฟเดอเรอร์จะนำอยู่ 13-10 ซึ่งกรณีนี้มักเป็นประเด็นที่แฟนเทนนิสของทั้ง 2 คนหยิบยกมาถกเถียงกันเรื่อยมา

ยังไม่ทันที่เรื่องของทั้งคู่จะได้ข้อสรุป การกลับมาคว้าแชมป์อีกครั้งของโยโควิชทำให้หัวข้อสนทนาเรื่อง GOAT เผ็ดร้อนขึ้น

ปัจจุบัน โนเล่อายุเพิ่งจะเต็ม 31 ปีไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ถือว่ายัง “หนุ่ม” กว่าทั้งเฟดและนาดาล โอกาสยืนระยะยาวๆ ย่อมมีมากกว่า

ส่วนเรื่องใจที่ใครๆ เคยบอกว่าเขาหมดไฟไปแล้วนั้น นักหวดชาวเซิร์บบอกว่าตัดประเด็นนี้ทิ้งไปได้ เพราะตอนนี้เขามี สเตฟาน ลูกชายวัย 3 ขวบเป็นแรงบันดาลใจให้อยากทำผลงานดีๆ เพื่อให้ทั้งครอบครัวได้ฉลองกัน

ถ้าร่างกายเริ่มเข้าที่เข้าทาง แถมยังมุ่งมั่นตั้งใจจะสร้างผลงาน ระยะห่างที่ไล่ตามนาดาลและเฟเดอเรอร์อยู่ 4 กับ 7 รายการนั้น ไม่ถึงกับเหลือบ่ากว่าแรงถ้าเขาสามารถรักษามาตรฐานการเล่นได้ดีสม่ำเสมอ

ไม่ว่าสุดท้ายจะออกหัวออกก้อย ที่แน่ๆ ตอนนี้ “บิ๊กทรี” กลับมาครองความยิ่งใหญ่ในวงการสักหลาดโลกได้อย่างสวยงามอีกครั้ง

ชวนให้หนึ่งถึงอีกหนึ่งหนุ่มซึ่งเคยสอดแทรกขึ้นมาท่ามกลางยอดมือพระกาฬทั้ง 3 อย่าง แอนดี้ เมอร์เรย์ นักเทนนิสดังชาวสก๊อตที่มาแรงจนบางคนต้องเพิ่มชื่อเขาขึ้นมาอยู่ในกลุ่ม “บิ๊กโฟร์”

ตอนนี้เมอร์เรย์กำลังอยู่ระหว่างพักรักษาตัวจากปัญหาเจ็บสะโพกเรื้อรัง ซึ่งยังไม่มีความชัดเจนว่าจะกลับมาได้เมื่อใด

ดูท่า “บิ๊กทรี” จะยังจำกัดจำนวนอยู่ที่ 3 คนไปอีกยาวๆ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image