จาเร็ด กอฟฟ์ ควอร์เตอร์แบ็กของแอลเอ แรมส์ โชว์ผลงานขว้าง 4 ทัชดาวน์ รวมระยะ 413 หลา และวิ่งเองอีก 1 ทัชดาวน์ ช่วยให้ต้นสังกัด เปิดบ้านเอาชนะแคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ 54-51 ในศึกอเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล ที่ลอสแองเจลิส เมโมเรียล โคลิเซียม เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
สำหรับแมตช์นี้ เป็นการดวลกันระหว่างทีมที่มีเกมรุกที่ยอดเยี่ยมแห่งศึกคนชนคนแดนมะกัน โดยทั้งคู่ไม่ทำให้แฟนกีฬาผิดหวัง เมื่อทำแต้มรวมกันสูงถึง 105 คะแนน ซึ่งแต้มรวมดังกล่าว จารึกสถิติหลายประการ ได้แก่ เป็นการทำคะแนนรวมมากสุดตั้งแต่มีการแข่งขันนัดมันเดย์ไนท์, เป็นครั้งแรกที่สองทีมดวลกันจนสามารถทำแต้มทะลุ 50 คะแนนทั้งคู่ และเป็นการทำแต้มรวมสูงสุดอันดับที่ 3 ในประวัติศาสตร์การแข่งขันเอ็นเอฟแอล
“แมตช์นี้ถือเป็นเกมที่บ้ามากๆ ให้ความรู้สึกเหมือนว่าทั้งสองทีมมีโอกาสจะชนะกันทั้งคู่หากใครได้ครองเกมบุกเป็นครั้งสุดท้ายในตอนนั้น แต่เกมนี้ก็จบลงที่ชัยชนะของเรา ซึ่งผมมีความสุขแบบสุดสุดไปเลย” กอฟฟ์ ควอร์เตอร์แบ็กของแอลเอ แรมส์ ระบุ
ส่วนฌอน แม็คเวย์ โค้ชของแรมส์ เปิดใจว่าการดวลกันในเกมนี้เป็นสิ่งที่ลุ้นระทึกและคาดเดายากมากๆ โดยแรมส์ เพิ่งจะได้หายใจหายคอแบบโล่งๆ ในช่วงท้ายเกมนี้เอง
ด้านสถิติ แมตช์ที่มีคะแนนรวม 2 อันดับแรก ได้แก่ เกมที่ เบงกอลส์ ไล่อัด บราวน์ส 58-48 (รวม 106 คะแนน) เมื่อปี 2004 คู่ระหว่าง และเกมระหว่างเรดสกินส์ กะซวก ไจแอนต์ส 72-41 (รวม 115 คะแนน) เมื่อปี 1966
ทั้งนี้เกมดังกล่าวยังเป็นการลบล้างสถิติในประวัติศาสตร์ตลอด 216 ครั้งก่อนนี้ ของศึกเอ็นเอฟแอล ที่บ่งชี้ว่า หากทีมไหนทำถึง 50 คะแนนนั้น จะไม่เป็นฝ่ายพ่ายแพ้อีกด้วย
FINAL: The @RamsNFL WIN an instant classic! #LARams #KCvsLAR
(by @Lexus) pic.twitter.com/rBLTbIR7hI
— NFL (@NFL) 20 พฤศจิกายน 2561
14 total touchdowns.
1,001 combined yards.
The highest scoring game in #MNF history.The @RamsNFL won a mega matchup @Chiefs that MORE than lived up to the hype! ?? #KCvsLAR pic.twitter.com/XrNZOBJ64I
— NFL (@NFL) 20 พฤศจิกายน 2561