“นิกิ เลาดา” ตำนานนักซิ่งดีกรีแชมป์โลกฟอร์มูล่าวัน 3 สมัยชาวออสเตรเลีย ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบในวัย 70 ปี เนื่องมาจากปัญหาสุขภาพรุมเร้า เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยอดีตนักซิ่งผู้ยิ่งใหญ่นั้นเพิ่งเข้ารับการปลูกถ่ายปอดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา จากนั้นช่วงต้นปี 2019 เจ้าตัวก็เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลอีกครั้งเนื่องจากป่วยเป็นไข้หวัด โดยข่าวคราวได้เงียบหายไปพักใหญ่ ก่อนที่ล่าสุดจะได้รับการยืนยันจากครอบครัวว่าเลาด้าได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบแล้ว
สำหรับเลาดา ได้รับการยกย่องให้เป็นตำนานนักขับเอฟวัน จากผลงานคว้าแชมป์โลก 3 สมัย โดยทำได้ 2 ครั้งในสังกัดทีมเฟอร์รารี่ เมื่อปี 1975 กับ 1977 ก่อนที่จะอำลาวงการประชันความเร็วหลังจบการแข่งขันฤดูกาล 1979 เพื่อไปเป็นผู้บริหารและนักขับเครื่องบินของสายการบิน “เลาดา แอร์” ที่เจ้าตัวเป็นผู้ก่อตั้ง จากนั้นเลาดาได้คัมแบ๊กสู่วงการประชันความเร็วอีกครั้งในปี 1982 ก่อนคว้าแชมป์โลกรถสูตรหนึ่งสมัยที่ 3 ได้สำเร็จในปี 1984 ภายใต้สังกัดแมคลาเรน กระทั่งประกาศอำลาวงการรถสูตรหนึ่งอย่างเป็นทางการอีกครั้งในปีถัดมา
ที่สำคัญ เลาดา ยังเคยสร้างตำนานโกงความตายหลังประสบอุบัติเหตุขณะแข่งขันจนไฟลุกท่วมที่ประเทศเยอรมนี เมื่อปี 1976 โดยร่างกายของเจ้าตัวนั้นถูกไฟไหม้ถึงระดับ 3 แต่เจ้าตัวก็ถูกส่งตัวถึงมือแพทย์อย่างรวดเร็วและรอดชีวิตมาได้อย่างปาฏิหารย์ แต่ก็มีรอยแผลเป็นบนใบหน้าและเสียหูข้างขวาจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งเลาดาใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 6 สัปดาห์เท่านั้น ก่อนหวนคืนสู่สังเวียนความเร็วอีกครั้ง
นอกจากนี้เลาดาได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้บริหารของทีมเมอร์เซเดสในปี 2012 จนมีส่วนสำคัญในการดึงตัวลูอิส แฮมิลตัน นักขับมากฝีมือชาวอังกฤษเข้าร่วมสังกัดในปีถัดมา กระทั่งกวาดแชมป์โลกมาครองมากถึง 5 สมัยในปัจจุบัน
โดยเลาดานั้นเคยมีคู่ปรับฝีมือฉกาจอย่าง เจมส์ ฮันท์ ที่ต่อสู้ประชันความเร็วกันอย่างดุเดือด โดยเฉพาะปี 1976 ที่ฮันต์นั้นปาดหน้าซิวแชมป์โลกไปครอง ในขณะที่เลาดานั้นคว้าเพียงตำแหน่งรองแชมป์ ซึ่งเรื่องราวการฟาดฟันของทั้งคู่ถูกหยิบไปสร้างภาพยนตร์เรื่อง Rush โดยมีนักแสดงชื่อดังอย่าง ดาเนียล บรูห์ล แสดงเป็นเลาด้า และคริส เฮมส์เวิร์ธ รับบทเป็นฮันท์
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย