ศึกกอล์ฟหญิงแอลพีจีเอทัวร์ เตรียมกลับมาแข่งขันอีกครั้งในสัปดาห์นี้กับศึก “เพียว ซิลค์ แชมเปี้ยนชิพ” ที่รัฐเวอร์จิเนีย ระหว่างวันที่ 23-26 พฤษภาคม โดย “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล โปรกอล์ฟมือ 4 ของโลกในฐานะแชมป์เก่า จะลงสนามไล่ล่าแชมป์ทัวร์นาเมนต์นี้เป็นสมัยที่ 3 ขณะที่ “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล ก็จะร่วมแข่งขันเพื่อลุ้นแชมป์อาชีพรายการที่ 2 ในชีวิต
นอกจากนี้ยังมีโปรสายไทยร่วมประชันฝีมืออีกหลายราย อิทิ “โปรเมียว” ปาจรีย์ อนันต์นฤการ, “โปรแหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ, “โปรแชมเปญ” เฌอมาลย์ สันติวิวัฒนพงศ์ และ “โปรแจน” วิชาณี มีชัย เป็นต้น
สำหรับศึกเพียวซิลค์ เดิมใช้ชื่อ “คิงส์มิลล์ แชมเปี้ยนชิพ” จัดแข่งครั้งนี้เป็นปีที่ 15 ติดต่อกัน โดยโปรเมเป็นแชมป์เก่าและอดีตแชมป์ 2 สมัย ที่เคยคว้าแชมป์ได้ในปี 2016 และ 2018 โดยการแข่งขันเมื่อปีที่แล้ว สภาพอากาศไม่เป็นใจจนต้องลดหลุมเล่นเหลือ 54 หลุม โดยเมื่อหวดครบ โปรเมมีสกอร์เท่ากับนาสะ ฮาตาโอกะ โปรชาวญี่ปุ่น และชุน อินกี จากเกาหลีใต้ จึงต้องดวลเพลย์ออฟ 2 หลุมกว่าจะรู้ผลแพ้ชนะ ซึ่งโปรเมคว้าแชมป์ได้สำเร็จและเป็นโทรฟี่ใบแรกของซีซั่นที่ผ่านมา
ขณะที่ผลงานในปีนี้ของสองพี่น้องจุฑานุกาล แม้จะยังไร้แชมป์ติดมือ แต่ถือว่ารักษาฟอร์มได้สม่ำเสมอ โดยโปรเมรักษาสถิติผ่านการตัดตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และจบอันดับท็อป 20 ได้ถึง 5 รายการในปีนี้ ส่วนโปรโมลงแข่ง 10 รายการ ไม่ผ่านตัดตัวเพียงครั้งเดียว นอกนั้นติดอันดับท็อป 20 ได้ถึง 6 รายการ
สำหรับโปรสาวชื่อดังมือท็อป 10 ของโลกต่างหาเพรดร่วมทัวร์นาเมนต์นี้อย่างคับคั่ง โดยขาดเพียงปาร์ก อินบี มือ 6 โลกชาวเกาหลีใต้เพียงคนเดียว นอกนั้นต่างเข้าร่วมครบครันทั้งมือ 1 โลก โค จิน ยอง ชาวเกาหลีใต้, มือ 2 โลก มินจี ลี จากออสเตรเลีย, มือ 3 โลก ปาร์ก ซอง ฮยอน จากเกาหลีใต้, มือ 4 โลก “โปรเม” เอรียา, มือ 5 โลก นาสะ ฮาตาโอกะ จากญี่ปุ่น, มือ 7 โลก เล็กซี่ ธอมป์สัน โปรอเมริกัน, มือ 8 โลก บรู๊ก เฮนเดอร์สัน จากแคนาดา, มือ 9 โลก คิม เซ ยอง จากเกาหลีใต้ และมือ 10 โลก เนลลี่ คอร์ด้า โปรชาวอเมริกัน
สำหรับแชมป์เก่ารายการดังกล่าวที่เข้าร่วมชิงชัยในครั้งนี้มีทั้งหมด 6 ราย ซึ่งนอกจากโปรเมแชมป์ 2 สมัยแล้ว ยังมีเล็กซี่ ธอมป์สัน แชมป์ปี 2017, มินจี ลี แชมป์ปี 2015, ลีเซตต์ ซาลาส แชมป์ปี 2014, คริสตี้ เคอร์ แชมป์ 3 สมัย ปี 2005, 2009, 2013 และแคร์รี่ เว็บบ์ แชมป์ปี 2006
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
