เว็บไซต์ของแอลพีจีเอทัวร์สรุปเรื่องสถิติและรางวัลต่างๆ ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการแข่งขันรายการส่งท้ายปี ศึก “ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ” ที่รัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 21-24 พฤศจิกายน โดยระบุว่า ฤดูกาลนี้ “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล โปรกอล์ฟมือ 10 ของโลก สามารถทุบสถิติทำอีเกิ้ลสูงสุดใน 1 ฤดูกาลของลอร่า เดวี่ส์ ตำนานกอล์ฟชาวอังกฤษลงได้ โดยก่อนถึงทัวร์นาเมนต์สุดท้าย โปรเมทำอีเกิ้ลไปแล้ว 22 ครั้ง ทำลายสถิติเดิมของเดวี่ส์ที่ทำไว้ 19 ครั้ง เมื่อปี 2004 ลงได้อย่างสวยงาม และยังมีสิทธิทำสถิติเพิ่มได้อีก ขณะที่การ์ลอต้า ซิกันด้า โปรชาวสเปน ทำ 19 อีเกิ้ล เท่ากับสถิติเดิมของเดวี่ส์
ทั้งนี้ โปรเมและซิกันด้าต่างทำผลงานเบียดกันลุ้นโบนัส 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (30 ล้านบาท) สำหรับรางวัลการเล่นหลุมยาก หรือ “เอออน ริสก์ รีวอรฺด ชาลเลนจ์” มาตลอดฤดูกาล โดยผลการตัดสินหลังจบรายการสุดท้ายที่เก็บสถิติคือศึก “โตโต้ เจแปน คลาสสิก” ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรากฏว่า โปรเมคว้าอันดับ 2 ไปครองด้วยสถิติเฉลี่ยการเล่นหลุมยาก -0.833 ขณะที่ซิกันด้ามีสถิติเฉลี่ย -0.841 เฉือนกันไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยโปรเมทำอีเกิ้ลหลุมยากได้ 8 ครั้ง น้อยกว่าซิกันด้าเพียงครั้งเดียว
ด้านโค จิน ยอง โปรมือ 1 ของโลกชาวเกาหลีใต้ มีลุ้นเป็นนักกอล์ฟคนที่ 4 ต่อจากลอเรน่า โอชัว (ปี 2007, 2008), เจิ้ง หยาหนี่ (ปี 2011) และโปรเม (ปี 2018) ที่สามารถกวาดรางวัลนักกอล์ฟยอดเยี่ยมแห่งปี, รางวัลสกอร์เฉลี่ยต่ำสุด “แวร์โทรฟี่”, ตำแหน่งนักกอล์ฟทำเงินรางวัลสะสมสูงสุด และจบฤดูกาลในฐานะมือ 1 โลกได้ในปีเดียวกัน
โดยในส่วนของรางวัลที่โคยังมีสิทธิพลาดคือนักกอล์ฟทำเงินรางวัลสะสมสูงสุด เนื่องจากปัจจุบันโคนำเป็นอันดับ 1 โดยทิ้งห่างลี จองอึน เพื่อนร่วมชาติ มือ 6 ของโลกกว่า 720,000 ดอลลาร์สหรัฐ (21.6 ล้านบาท) แต่เนื่องจากแอลพีจีเอเปลี่ยนกติกาการแข่งขัน “ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์แชมเปี้ยนชิพ” ให้เงินรางวัลและโบนัส 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ของคะแนนสะสม “เรซ ทู ซีเอ็มอี โกลบ” ตกเป็นของแชมป์ทั้งหมด ลีจึงยังมีสิทธิทำเงินรางวัลแซงได้ เช่นเดียวกับนักกอล์ฟอีก 8 คน แต่ก็ขึ้นอยู่กับผลงานของโค จิน ยอง ในทัวร์นาเมนต์นี้ด้วยเช่นกัน
