ไทเกอร์ วู้ดส์ อดีตนักกอล์ฟเบอร์ 1 ของโลกชาวอเมริกัน เปิดเผยว่าได้รับการทาบทามให้ลงแข่งขัน “พรีเมียร์ กอล์ฟ ลีก” หรือ พีจีแอล คู่แข่งใหม่ของศึกพีจีเอทัวร์และยูโรเปี้ยนทัวร์ ซึ่งตนกำลังอยู่ในช่วงศึกษารายละเอียดการแข่งขันของทัวร์นาเมนต์ใหม่นี้อยู่
สำหรับการแข่งขันพรีเมียร์ กอล์ฟ ลีก ถือเป็นทัวร์นาเมนต์ใหม่ที่จัดตั้งขึ้นโดยเวิล์ดกอล์ฟกรุ๊ป ซึ่งวางแผนแข่งขันระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนกันยายนของทุกปี ซึ่งเตรียมเริ่มแข่งขันอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2022 เป็นต้นไป โดยมีรูปแบบรวมรวบนักกอล์ฟชั้นนำของโลก 48 คน แข่งขันใน 18 รายการทั่วโลก (10 รายการจัดในสหรัฐ) ดวลสะวิงรายการละ 54 หลุม แบบไม่มีการตัดตัว ต่างจากทัวร์นาเมนต์กอล์ฟปกติที่แข่งขันกันรายการละ 72 หลุม และมีการตัดตัวเมื่อจบรอบสอง
เบื้องต้นมีรายงานว่า ศึกพรีเมียร์ กอล์ฟ ลีก มีเงินรางวัลรวมตลอดปีสูงถึง 240 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 7,481 ล้านบาท) โดยแบ่งเป็นเงินรางวัลรวมรายการละ 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 311 ล้านบาท) ซึ่งแชมป์แต่ละทัวร์นาเมนต์จะได้รับเงินรางวัล 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 62.3 ล้านบาท) ส่วนแชมป์บุคคลเมื่อสิ้นสุดฤดูกาลจะรับโบนัสอีก 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 311 ล้านบาท) นอกจากนี้ยังมีโบนัสประเภททีม (ทีมละ 4 คน) อีก 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1,246 ล้านบาท) โดยข่าวคราวของทัวร์พีจีแอลที่มีงเงินรางวัลสูงนั้น ทำให้ทางพีจีเอทัวร์ จำเป็นต้องปรับเพิ่มเงินรางวัลในแต่ละรายการของศึกพีจีเอ แชมเปี้ยนชิพ ซีซั่น 2020 ซึ่งแชมป์จะได้รับเงิน 2.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (84 ล้านบาท)
“ทีมของผมรับทราบข่าวคราวแล้ว และกำลังทำความเข้าใจลงลึกไปในรายละเอียดเหมือนกับทุกคน ซึ่งยังมีข้อมูลจำนวนมากที่เราจำเป็นต้องพิจารณาต่อไป” วู้ดส์ ระบุ
ทั้งนี้ฝ่ายจัดพีจีแอลมุ่งหวังดึงบรรดานักกอล์ฟระดับโลกจากศึกพีจีเอทัวร์และยูโรเปี้ยนทัวร์มาแข่งขัน ซึ่งแม้ยังไม่มีความชัดเจนว่านักกอล์ฟระดับโลกจะสามารถลงแข่งขันทั้งทัวร์นาเมนต์ใหม่เอี่ยมควบคู่ไปกับ 2 ทัวร์นาเมนต์ดั้งเดิมได้หรือไม่ แต่เจย์ โมนาฮาน หนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของพีจีเอ กับ คีธ เพลลี ประธานบริหารยูโรเปี้ยน ทัวร์ เคยเปรยเอาไว้ว่านักกอล์ฟจำเป็นต้องเลือกระหว่าง การลงแข่งอีเวนต์ใหม่ หรือยังคงเล่นในพีจีเอทัวร์และยูโรเปี้ยนทัวร์ของพวกเขาต่อไป
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
