นาดาลโวยฝ่ายจัดเฟร้นช์ โอเพ่น วางคิวแข่งแน่น เล่นจบตี 1 ครึ่ง ทำสถิติเลิกดึกสุด
ราฟาเอล นาดาล นักเทนนิสมือ 2 ของโลกชาวสเปน ดีกรีแชมป์แกรนด์สแลม “เฟร้นช์ โอเพ่น” 12 สมัย ตั้งคำถามกับฝ่ายจัดการแข่งขัน หลังจากลงแข่งขันรอบก่อนรองชนะเลิศ ที่โรล็องด์ การ์โรส กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม ทำสถิติเป็นแมตช์ที่เลิกดึกที่สุดในประวัติศาสตร์ทัวร์นาเมนต์ หลังจากเอาชนะยานนิก ซินแนร์ ดาวรุ่งจากอิตาลี 7-6(4), 6-4, 6-1 โดยการแข่งขันสิ้นสุดในเวลาตีหนึ่งครึ่ง (01.30 น. ของวันที่ 7 ตุลาคม) และกว่าจะแถลงข่าวเสร็จก็ในเวลาตีสอง 10 นาที
สาเหตุที่แมตช์แข่งขันเลิกดึกขนาดนั้นเนื่องจาก ฝ่ายจัดการแข่งขันได้จัดโปรแกรมแข่งที่คอร์ตหลัก ฟิลิปป์ ชาตริเย่ร์ ถึง 5 คู่ โดยอุณหภูมิเมื่อนาดาลแข่งขันจบลดต่ำถึง 12 องศาเซลเซียส
นาดาลกล่าวว่า ตนรู้ว่านักฟุตบอลต้องเล่นกันดึกๆ ภายใต้สภาพอากาศแบบนี้ แต่ต้องเข้าใจว่ากีฬาฟุตบอลนั้น นักกีฬาเคลื่อนที่ตลอดเวลา ขณะที่เทนนิส เดี๋ยวแข่ง เดี๋ยวพัก เดี๋ยวเปลี่ยนแดน การลงแข่งขันภายใต้สภาพอากาศและสภาพแวดล้อมอย่างนี้ค่อนข้างเป็นอันตรายต่อร่างกาย ตนไม่เข้าใจว่าทำไมฝ่ายจัดวางโปรแกรมให้ตีในคอร์ตหลักถึง 5 แมตช์ จนทำให้นักกีฬาเสี่ยงแบบนี้
สำหรับคู่แข่งในรอบตัดเชือกของนาดาล คือ ดิเอโก้ ชวาร์ตซมัน นักหวดชาวอาร์เจนไตน์ ที่พลิกชนะโดมินิค ธีม แชมป์ “ยูเอส โอเพ่น” หนล่าสุดจากออสเตรีย ในการดวล 5 เซต กินเวลากว่า 5 ชั่วโมง 7-6(1), 5-7, 6-7(6), 7-6(5), 6-2
ผลการแข่งขันประเภทหญิงเดี่ยว รอบก่อนรองชนะเลิศ
อิก้า สเวียเท็ก (โปแลนด์) ชนะ มาร์ติน่า เทรวิซาน (อิตาลี) 6-3, 6-1
นาเดีย โปโดรอสก้า (อาร์เจนตินา) ชนะ เอลิน่า สวิโตลิน่า (3-ยูเครน) 6-2, 6-4
ผลรอบสี่คู่ตกค้าง
ดาเนียล คอลลินส์ (สหรัฐ) ชนะ ออนส์ จาเบอร์ (30-ตูนิเซีย) 6-4, 4-6, 6-4
