นาสซิบ ผู้เล่นเรดเดอร์ส นักกีฬาเอ็นเอฟแอลคนแรกเปิดตัวเป็นเกย์ขณะยังเล่นอยู่

Reuters

นาสซิบ ผู้เล่นเรดเดอร์ส นักกีฬาเอ็นเอฟแอลคนแรกเปิดตัวเป็นเกย์ขณะยังเล่นอยู่

คาร์ล นาสซิบ ดีเฟนซีฟเอนด์ของลาสเวกัส เรดเดอร์ส กลายเป็นผู้เล่นอเมริกันฟุตบอลคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ยังเล่นในลีกเอ็นเอฟแอลและเปิดเผยตัวว่าเป็นเกย์ หลังจากนาสซิบเปิดเผยเรื่องรสนิยมทางเพศของตัวเองผ่านโซเชียลมีเดีย เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน

ดีเฟนซีฟเอนด์วัย 28 ปี ซึ่งร่วมแข่งขันเอ็นเอฟแอลมาแล้ว 5 ปี โพสต์คลิปวิดีโอทางอินสตาแกรม กล่าวว่า อยากเปิดเผยกับทุกคนว่า ตัวเองเป็นเกย์ คิดทำแบบนี้มาระยะหนึ่งแล้ว จนรู้สึกสบายใจเพียงพอที่จะเผยเรื่องนี้ออกมา ตนมีชีวิตที่ยอดเยี่ยม มีครอบครัว เพื่อนๆ และงานที่ยอดเยี่ยมเท่าที่ผู้ชายคนหนึ่งจะคาดหวังได้ โดยปกติแล้วตนเป็นคนที่ค่อนข้างรักความเป็นส่วนตัว จึงอยากทำความเข้าใจว่าที่ทำแบบนี้ไม่ใช่เพื่อเรียกร้องความสนใจ แต่อยากเป็นตัวอย่างและร่วมผลักดันให้นักกีฬาที่เป็นเกย์กล้าจะเปิดเผยตัวตน โดยหวังว่าสักวัน สังคมจะยอมรับได้โดยที่ไม่ต้องมีใครอัดคลิปวิดีโอแบบนี้เพื่อเปิดตัวเรื่องรสนิยมทางเพศของตัวเองอีก จนกว่าจะถึงวันนั้น ตนจะทำหน้าที่ในส่วนของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่อร่วมเปลี่ยนแปลงสังคมให้หันมายอมรับเรื่องเหล่านี้โดยทั่วกัน

 

View this post on Instagram

 

Advertisement

A post shared by Carl Nassib (@carlnassib)

นาสซิบได้โพสต์ข้อความด้วยว่า กังวลเรื่องนี้มาตลอด 15 ปี แต่ที่ตัดสินใจเปิดเผยก็เพราะได้รับกำลังใจจากครอบครัว เพื่อนๆ สต๊าฟโค้ช และเพื่อนร่วมทีมทุกคน โดยได้ตัดสินใจบริจาคเงิน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ (3.1 ล้านบาท) ให้ “เทรเวอร์ โปรเจกต์” ซึ่งเป็นกลุ่มไม่หวังผลกำไรที่ช่วยรณรงค์ป้องกันการฆ่าตัวตายในเยาวชนกลุ่ม LGBTQ ของสหรัฐอเมริกา

Advertisement

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาถึงจะมีนักกีฬาเอ็นเอฟแอลหลายคนที่เปิดเผยตัวว่าเป็นเกย์ ก็จะเปิดเผยหลังจากเลิกเล่นไปแล้วทั้งสิ้น แต่มีกรณีของไมเคิล แซม ที่ถูกเซนต์หลุยส์ แรมส์ ดราฟต์ตัวร่วมทีมในปี 2014 หลังเปิดเผยตัวเป็นเกย์ แต่สุดท้ายได้เล่นแค่ช่วงพรีซีซั่น ก่อนถูกปล่อยตัว โดยยังไม่ได้ลงเล่นในเกมลีกแต่อย่างใด

ส่วนปฏิกิริยาหลังนาสซิบเปิดเผยตัวผ่านคลิปวิดีโอดังกล่าว ทีมลาสเวกัส เรดเดอร์ส ได้โพสต์ทวิตเตอร์ว่า รู้สึกภูมิใจในตัวเขา ขณะที่โรเจอร์ กู๊ดเดลล์ ประธานเอ็นเอฟแอล ออกมาชื่นชมและหวังว่าในอนาคตเรื่องพวกนี้จะเป็นปกติของสังคม ไม่ใช่สิ่งที่สื่อต้องทำข่าว เพราะทุกคนได้รับการยอมรับอย่างเท่าเทียม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image