ไอทีเอฟยันไม่บอยคอตจีนตามดับเบิลยูทีเอ ชี้ห่วงเผิง ส่วย แต่ต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทนนิสระดับรากหญ้า
สหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ไอทีเอฟ) แถลงเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ว่า ไอทีเอฟไม่มีแผนจะยกเลิกการแข่งขันเทนนิสอาชีพที่ประเทศจีนตามสมาคมเทนนิสหญิงอาชีพ (ดับเบิลยูทีเอ) ซึ่งประกาศมาก่อนหน้านี้ เพื่อกดดันรัฐบาลจีนให้ยืนยันความปลอดภัยและสวัสดิภาพของเผิง ส่วย อดีตนักเทนนิสหญิงมือ 1 โลกประเภทคู่ ซึ่งกลายเป็นประเด็นร้อนไปทั่วโลกหลังออกมาแฉว่าเคยโดนจาง เกาลี่ อดีตรองนายกรัฐมนตรีจีนบังคับให้มีเพศสัมพันธ์ด้วยนานหลายปี
เดวิด ฮักเกอร์ตี้ ประธานไอทีเอฟ ระบุว่า ในฐานะองค์กรที่บริหารดูแลวงการเทนนิสโลก ไอทีเอฟให้การสนับสนุนเรื่องสิทธิของผู้หญิงทุกคน นี่เป็นข้อกล่าวหาที่ควรต้องได้รับความสนใจ และไอทีเอฟจะประสานงานเบื้องหลังโดยตรงเพื่อหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ต้องไม่ลืมว่า ไอทีเอฟมีพันธกิจต่อวงการกีฬาโลก หนึ่งในนั้นคือการพัฒนานักกีฬาเทนนิสในระดับรากหญ้า เราไม่ต้องการให้คนอีกหลายพันล้านคนต้องมารับโทษไปด้วย จึงยืนยันว่าจะจัดการแข่งขันเทนนิสทั้งระดับเยาวชนและประชาชนในประเทศจีนตามกำหนดการปกติ
อย่างไรก็ตาม ไอทีเอฟย้ำว่า ให้ความสำคัญกับสวัสดิภาพและความปลอดภัยของเผิง ส่วย เป็นอันดับแรก โดยสหพันธ์จะวิเคราะห์สถานการณ์อย่างใกล้ชิด แต่ขณะเดียวกันก็ต้องไม่ลืมว่า การเติบโตในระดับรากหญ้า และการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกีฬาเทนนิสเป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนา ซึ่งไอทีเอฟจะประสานงานกับสมาคมเทนนิสจีนเพื่อขับเคลื่อนสิ่งนี้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ดับเบิลยูทีเอแถลงว่า ไม่มั่นใจว่าเผิง ส่วย มีอิสรภาพ ไม่ได้โดนกดดันจากบุคคลภายนอก ตามที่สื่อซึ่งควบคุมโดยรัฐบาลจีนนำเสนอภาพและคลิปของเธอจริงหรือไม่ จึงระงับการแข่งขันเทนนิสอาชีพในจีนที่ดับเบิลยูทีเอเป็นเจ้าของทัวร์นาเมนต์ทั้งหมดจนกว่าทุกอย่างจะคลี่คลาย
ขณะที่รัฐบาลจีนตอบโต้ว่า ไม่ควรนำการเมืองมาเกี่ยวเนื่องกับกีฬา
ส่วนสมาคมเทนนิสอาชีพชาย (เอทีพี) ไม่ได้บอยคอตจีนตามดับเบิลยูทีเอเช่นกัน โดยออกแถลงการณ์ว่า เชื่อว่าการคงสถานภาพความเป็นสากลไว้จะเป็นผลดีกับวงการเทนนิสโดยภาพรวมมากกว่า
