ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ กลายเป็นทีมที่มีความสำคัญสูงในพรีเมียร์ลีก นอกจากเป็นกระดูกสันหลังทีมชาติอังกฤษ ยังแทบจะผูกขาดโควต้าท็อปโฟร์ และอีกไม่นานเมื่อสนามใหม่เสร็จเรียบร้อย ตราไก่ก็จะอัพเกรดขึ้นเป็นมหาอำนาจเต็มตัว
การใช้งบสร้างสนามอาจเป็นเหตุผลให้สเปอร์สงดซื้อนักเตะในช่วงซัมเมอร์ แต่ทุกอย่างก็ยังราบรื่น ลงแข่ง 2 นัดชนะรวด สภาพทีมแข็งแกร่งเหมือนเดิม ไม่มีอะไรน่าห่วง
การเติบโตของทีมตราไก่สวนทางกับอดีตเจ้าพ่อ แมนฯยูไนเต็ด ชัดเจน
สเปอร์สนับวันยิ่งเก่ง อนาคตสดใส แมนฯยูยิ่งเล่นยิ่งจืด บรรยากาศอึมครึม
วันจันทร์นี้ เจอกันที่โอลด์แทรฟฟอร์ด จึงเป็นเกมที่แฟนๆ จับตามอง อยากรู้ว่าสเปอร์สจะส่งแมนฯยูลงหลุม หรือว่าผีจะคืนชีพ ใช้เกมนี้เป็นจุดเปลี่ยนกันแน่
ทุกฝ่ายรู้ดีว่า แมนฯยูไนเต็ดมีเดิมพันสูงมาก
ถ้าชนะ ความกดดันและเสียงวิพากษ์วิจารณ์จะหายไป อย่างน้อยก็พักใหญ่ๆ
แต่ถ้าแพ้ จะเป็นการแพ้ 2 นัดติด กุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ หล่นลงนรกทันที
แมนฯยูคงยังไม่ปลดจ่ามูเพราะไม่อยากจ่ายเงินชดเชย 12 ล้านปอนด์ แต่เจ้าตัวก็จะอยู่อย่างร้อนใจ ไม่เป็นสุข เหลือเพื่อนน้อยลงทุกวัน
มูรินโญ่ยิ่งใหญ่จริง แต่ก็โดนคลื่นลูกใหม่ไล่จี้ติด เอาง่ายๆ แค่เทียบกับ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือสเปอร์สตอนนี้ ฝ่ายหลังยังดูราศีดีกว่าด้วยซ้ำ
ผมเองยังเคยคิดว่า ถ้าโปเช็ตติโน่มาคุมแมนฯยู ปีศาจแดงคงสดใส น่าตื่นเต้นทีเดียว เรื่องแชมป์อาจจะยังไม่ถึง แต่ก็คงได้ลุ้นกว่าที่เป็นอยู่
บอลของสเปอร์สสร้างสรรค์กว่าแมนฯยู เกมบุกแน่นอนสม่ำเสมอ ยิ่งมาเจอกองหลังปีศาจแดงที่กำลังย่ำแย่ โอกาสได้ประตูของทีมเยือนยิ่งเปิดกว้าง
ถ้าตราไก่กล้าๆ ลุย หวังมาเอา 3 แต้ม แฮร์รี่ เคน มีหวังเป็นฝันร้ายของยูไนเต็ด เดเล่ อัลลี่ ก็อาจจะได้โชว์ท่า “อัลลี่ ชาลเลนจ์” แบบใหม่ให้เห็นกันในโอลด์แทรฟฟอร์ด
เตือนกันไว้ว่า เวอร์ชั่น 2.0 ทำแล้วมีสิทธินิ้วล็อก!
