‘มิงกาลาบา เนปยีดอ’ เยือนเมืองหลวงพม่าบุกห้องนอน ‘อ่อง ธู’ (คลิป)

ฝ่ายข่าวกีฬา “มติชน” ได้มีโอกาสเดินทางมายังกรุงเนปยีดอ ประเทศพม่า ทำให้ทราบว่า อ่อง ธู กองหน้าป้ายแดงของ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มีบ้านเกิดที่อยู่ที่เมืองหลวงแห่งใหม่ของพม่านี่เอง และเปิดร้านขายเสื้อผ้ากับอุปกรณ์กีฬาที่มีชื่อ AT9 หรือ อ่อง ธู 9 (เลข 9 คือ เบอร์เสื้อที่ใส่ในยามเล่นให้ทีมชาติพม่า)

เมื่อไปถึงที่ร้านก็พบกับ อาเย โค พ่อของนักเตะซุปเปอร์สตาร์ทีมชาติพม่ากำลังง่วนกับงานภายในร้าน แต่ก็สละเวลาขี่รถมอเตอร์ไซค์นำเหยี่ยวข่าวชาวไทยไปบุกถึงห้องนอนอ่อง ธู ที่อยู่ห่างจากร้านไม่ไกลนัก

เมื่อถึงบริเวณบ้าน เรียกได้ว่าในชุมชนตรงนั้น บ้านของกองหน้ากิเลนผยองดูจะใหม่และโดดเด่นกว่าเพื่อนบ้านหลังอื่นๆ ในบ้านเต็มไปด้วยรูปถ่ายของอ่อง ธู และพบพี่ชายคนกลางอีก 1 คน รวมทั้งญาติๆ อีกหลายชีวิต

Advertisement

สมาชิกในบ้านต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี อาเย โค ตำรวจที่เกษียณอายุราชการ บอกว่า ตอนนี้แม่กับพี่ชายคนโตไม่อยู่บ้าน ไปอยู่กรุงเทพมหานครกับอ่อง ธู หลังจากที่เพิ่งย้ายสังกัดจาก โปลิศ เทโร เอฟซี ไปเล่นให้เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทำให้ไปดูแลใกล้ชิดเป็นพิเศษ ที่ผ่านมาตัวพ่อเองก็ได้ไปตามเชียร์ลูกชายอยู่เรื่อยๆ เพราะโปลิศ เทโร ได้ให้เดินทางไปเชียร์ลูกชายได้ทุก 15 วัน จึงสลับกับคนในบ้านเดินทางมาเชียร์ถึงขอบสนามที่ประเทศไทยกันเป็นประจำ

อาเย โค เล่าถึงเส้นทางการเป็นนักฟุตบอลของลูกชายว่า ด้วยความที่บ้านอยู่ใกล้วัด ทำให้เด็กชายอ่อง ธู เริ่มเตะบอลกับเณรที่สนามเล็กๆ ในวัดข้างบ้าน พออายุ 14 ปี ก็ได้ไปเก็บตัวกับอคาเดมีของสหพันธ์ฟุตบอลพม่าที่เมืองมัณฑะเลย์ ก้าวขึ้นมาสู่ทีม ยาดานาบอน ยักษ์ใหญ่ของลีกพม่า ติดทีมชาติ และย้ายมาเล่นในไทยลีก ซึ่งก็ถือเป็นความสำเร็จตามลำดับขั้นที่น่าพอใจ

Advertisement

“ผมอยากให้เขาโตในโลกฟุตบอลไปทีละขั้น ซึ่งตอนนี้ก็ถือว่าไปได้ดีแล้ว การที่ลูกชายได้ไปเล่นที่เมืองไทยยอมรับว่ามีความสุขมาก ยิ่งได้ย้ายไปเมืองทอง ที่เป็นสโมสรใหญ่ขึ้นก็ดีไปอีก เพราะตอนเด็ก อ่อง ธู เคยบอกไว้ว่าอยากจะไปเล่นในลีกต่างแดน ซึ่งตอนนี้ความฝันของเขา คือ การได้ไปเล่นเจลีก ญี่ปุ่น”

สำหรับพี่ชายอีก 2 คนของอ่อง ธู คนโตปัจจุบันอายุ 32 ปี ก็เล่นฟุตบอลลีกในประเทศมาก่อน แต่ตอนนี้ผันตัวไปดูแลน้องชายเป็นหลัก ส่วนพี่ชายคนรองอายุ 27 ปี เคยติดทีมมหาวิทยาลัยพม่าไปแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยอาเซียน ที่เมืองปาเล็มยัง ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อ 4 ปีที่แล้ว แต่คนที่ไปได้ไกลสุดในเส้นทางลูกหนังก็ต้องยกให้น้องชายคนเล็ก คือ อ่อง ธู นั่นเอง

สมาชิกภายในบ้านได้เปิดให้ดูห้องนอนของกองหน้าขวัญใจชาวพม่าแบบเป็นกันเอง แต่ก็ไม่ใช่ห้องของอ่อง ธู เสียทีเดียว เพราะความที่ไม่ค่อยได้อยู่บ้าน ทำให้ถูกลูกพี่ลูกน้องสาวสวยจับจองไปแล้ว พ่อยังเล่าอีกว่า ตั้งแต่ย้ายไปเล่นที่ไทย มีโอกาสกลับบ้านปีละ 3 ครั้ง เมื่อกลับมาก็ไม่ค่อยไปไหน เพราะชอบอยู่กับครอบครัว นอกจากนั้นยังมีสนามฟุตซอลกลางแจ้ง ที่เปิดให้คนในบริเวณใกล้เคียงเช่าเล่น ค่าเช่าอยู่ที่ 22 บาทต่อ 1 ชั่วโมงเท่านั้น และเมื่อกลับบ้าน ก็จะแวะไปเตะบอลอยู่บ่อยๆ

“บ้านหลังนี้มีการต่อเติมใหม่มา 3 ปีกว่าๆ แล้ว งบประมาณส่วนใหญ่ก็มาจากเงินของอ่อง ธู ตั้งแต่ที่ยังเล่นให้กับยาดานาบอน ทุกคนมีความสุขและสบายจากการที่เขาเล่นฟุตบอล และภูมิใจกับความสำเร็จในอาชีพฟุตบอลของลูกชายมาก” อาเย โคกล่าว

ถามถึงธุรกิจร้านเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬา AT9 พี่ชายคนรองเล่าว่า เปิดมาได้ประมาณ 2 ปี เพราะพี่ชายคนโตอยากจะทำ ประกอบกับอ่อง ธูก็สนับสนุนให้ทำ โดยใช้ชื่อของเขาเองเป็นชื่อร้าน ถือว่าธุรกิจไปได้สวย ปัจจัยหนึ่งก็มาจากชื่อเสียงของน้องชายด้วย

ดาวยิงเบอร์ 1 ของพม่าชื่นชอบ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นพิเศษ และมี เวย์น รูนี่ย์ เป็นนักเตะในดวงใจ เนื่องจากชอบสไตล์การเล่นที่ดุดัน ในตำแหน่งใกล้เคียงกับที่เขาลงเล่นอยู่ แต่ถ้าถามว่าหัวใจยังว่าหรือไม่?

พี่ชายให้คำตอบว่า อ่อง ธู หัวใจไม่ว่างแล้ว เพราะมีแฟนสาวที่คบกันอยู่ แต่อยู่ที่เมืองย่างกุ้ง ถ้าถามว่าสวยมั้ย พี่ชายยิ้มแล้วตอบสั้นๆ ว่า “ถ้าเขาชอบก็แปลต้องสวยของเขานั่นแหละ”

ครอบครัวของอ่อง ธู พูดคุยผ่านล่ามพม่าแบบ 3 ภาษา ทั้งไทย พม่า อังกฤษ อย่างสนุกสนาน เมื่อถึงเวลาอันสมควรจึงต้องขอตัวลากลับ ลูกพี่ลูกน้องสองสาวก็เดินออกมาส่งขึ้นรถพร้อมยกมือไหว้กล่าวอำลาตามแบบไทยๆ

อีกไม่นานก็จะได้เห็นอ่อง ธู วาดลวดลายในสีเสื้อกิเลนผยองแล้ว และถ้าเขายังรักษาความเก่งกาจได้อย่างต่อเนื่อง โอกาสที่จะไปเตะฟุตบอลที่ไกลบ้านมากขึ้น คือ ที่ญี่ปุ่น ก็คงไม่ใช่แค่ฝันอีกต่อไป

ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image