ย้อนไปเมื่อฤดูกาล 2017-18 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ภายใต้การคุมทีมของ โชเซ่ มูรินโญ่ จบอันดับที่ 2 ของตารางอย่างเหลือเชื่อ พวกเขาเสียประตูเพียง 28 ลูกตลอดซีซั่น พร้อมสถิติคลีนชีต 18 นัดของ ดาบิด เด เคอา นายด่านจอมหนึบชาวสเปน ที่โชว์ฟอร์มเทพแบบสุดสุด จนคว้าถุงมือทองคำมานอนกอดสมใจ
ทว่าซีซั่น 2018-19 ที่กำลังฟาดแข้งด้วยความดุเดือดอยู่ในขณะนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด รั้งอันดับที่ 6 ของตาราง โดนจ่าฝูงอย่าง ลิเวอร์พูล ทิ้งห่างถึง 19 แต้ม และเสียไปแล้วกว่า 30 ประตู คือยังไม่ผ่านครึ่งฤดูกาลเลยด้วยซ้ำแต่กลับโดนทะลวงตาข่ายยับเยิน แสดงให้เห็นว่าแนวรับมีปัญหาอย่างชัดเจน
รถบัสของจ่ามูไม่ได้แข็งแกร่งอย่างเคยอีกแล้ว!
ในที่สุดมูรินโญ่ ก็โดนตะเพิดพ้นโอลด์ แทรฟฟอร์ด พร้อมกับต้อนรับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร อดีตดาวยิงซุปเปอร์ซับ ที่เคยคว้าทริปเปิลแชมป์กับปีศาจแดง เข้ามาทำหน้าที่กุนซือขัดตาทัพยาวจนจบฤดูกาลนี้ ด้วยภารกิจปลุกผีให้ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง
แค่เพียง 2 นัดแรก กุนซือเจ้าของฉายา “เพชฌฆาตหน้าทารก” ก็สามารถพาปีศาจแดงฟื้นคืนชีพ เก็บชัยชนะได้อย่างสวยหรู บุกชนะคาร์ดิฟฟ์ 5-1 ต่อด้วยเปิดรังโอลด์ แทรฟฟอร์ด ไล่อัดฮัดเดอร์สฟิลด์ 3-1 ยิง 8 ลูกใน 2 นัด เสียเพียงแค่ 2 ประตู ดูดีมีอนาคตขึ้นมาทันที
แน่นอนว่าผลการแข่งขันอาจวัดอะไรไม่ได้มากนัก เพราะเป็นการเผชิญหน้ากับทีมที่เล็กกว่า แถมอยู่โซนท้ายตารางอีก แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปจนทำให้แฟนผีเริงร่า นั่นคือรูปแบบการเล่นต่างหาก
แมนฯ ยูไนเต็ด เขี่ยรถบัสของจ่ามูทิ้งไปอย่างไม่ใยดี พลันกลับมามีจิตวิญญาณปีศาจแดงอีกครั้ง ด้วยแพสชั่นแรงกล้า ทำเกมรกบุกแหลก เดินหน้าฆ่ามันแบบไม่ยั้ง แม้ว่าจะขึ้นนำก็มุ่งมั่นทำเกมรุกอย่างต่อเนื่อง สร้างฟุตบอลที่สนุกเร้าใจให้กับแฟนบอลอีกครั้ง
แต่แค่เปลี่ยนกุนซืออาจไม่พอ แนวรับยังเป็นปัญหาที่สำคัญ นักเตะที่มีอยู่ขาดความสม่ำเสมอ ผลัดกันฟอร์มผีเข้าผีออกกันไปเรื่อย ดังนั้นตลาดหน้าหนาวรอบนี้ ปีศาจแดงจึงควรมองหาปราการหลังหน้าใหม่ๆ เข้ามาเสริมทัพได้แล้ว
นี่คือ 5 นักเตะที่แมนฯ ยูไนเต็ด ควรกระชากตัวมาเสริมทัพในตลาดการซื้อขายเดือนมกราคมนี้ เพราะหลังบ้านต้องแข็งแกร่งกว่านี้ หากหวังจะกลับสู่ความยิ่งใหญ่ดังเดิม
1.แฮร์รี่ แม็กไกวร์ (เลสเตอร์ ซิตี้)
ปราการหลังชาวอังกฤษ สถาปนาตัวเองขึ้นมาเป็นหนึ่งในแนวรับที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกไปแล้ว รวมถึงฟอร์มในศึกฟุตบอลโลกก็โดดเด่นไม่น้อย ด้วยบุคลิกความเป็นผู้นำ การทำหน้าที่ในเกมรับได้อย่างแข็งแกร่ง นักเตะแบบนี้แหละ คือสิ่งที่แมนฯ ยูไนเต็ดต้องการ
สำหรับช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาปีศาจแดงตกเป็นข่าวว่า ได้ทุ่มเงิน 65 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,700 ล้านบาท) สู่ขอแม็กไกวร์เข้าสู่รั้วโอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่สุดท้ายเจ้าตัวก็ตัดสินใจจงรักภักดีและเลือกอยู่กับทัพ “จิ้งจอกสยาม” ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ตลาดหน้าหนาวนี้ ปีศาจแดงน่าจะกลับมาทุ่มเงินก้อนโตล่าตัวเขาอีกครั้ง และเชื่อว่าอาจลงทุนควักเงินเป็นสถิติโลกเพื่อกระชากแนวรับผู้ดีรายนี้ยืนเป็นกำแพงสุดแกร่งให้ปีศาจแดง แม้ว่าโอกาสคว้าแม็กไกวร์ช่วงกลางฤดูกาลอาจจะน้อย แต่ก็ใช่ว่าความเป็นไปได้จะเท่ากับ 0 เสียเมื่อไหร่
2.คาลิดู คูลิบาลี่ (นาโปลี)
คูลิบาลี่เป็นหนึ่งในกองหลังคนสำคัญของนาโปลี ถือเป็นแนวรับที่โชว์ฟอร์มได้ร้อนแรงที่สุด และถูกกล่าวถึงมากที่สุดคนหนึ่งในยุโรป
กองหลังชาวเซเนกัล วัย 27 ปี เป็นแนวรับร่างยักษ์ ที่มีส่วนสูงถึง 195 เซ็นติเมตร ส่งผลให้เขาสามารถป้องกันลูกกลางอากาศได้เป็นอย่างดี เขาฝึกฝนและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 3 ปีหลังสุดที่ยกระดับตัวเองอย่างก้าวกระโดด
ออเรลิโอ เด ลอเรนติส ประธานสโมสรนาโปลี เคยออกมาอ้างว่า ได้ปัดข้อเสนอมูลค่า 95 ล้านปอนด์ (3,950 ล้านบาท) จากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้ว่าตัวเลขที่ยื่นมานั้นจะถึงขั้นเป็นสถิติโลกสำหรับแนวรับก็ตาม แต่ความพยายามครั้งต่อไปก็ไม่แน่ หากแสดงความมุ่งม่นที่จะคว้าตัว บางทีนาโปลีอาจจะใจอ่อนกับเงินมหาศาลที่ปีศาจแดงประเคนให้
3.โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์ (ท็อตแนม ฮอตสเปอร์)
กองหลังชาวเบลเยียม วัย 29 ปี ตกเป็นข่าวกับปีศาจแดงมาอย่างยาวนาน และมีความพยายามในการยื่นขอซื้อตัวหลายครั้ง เพื่อขันแนวรับให้กับทีม หลังแผนรถบัสนั้นเริ่มไม่ได้ผลอีกต่อไปในซีซั่นนี้
เดอะ ซัน สื่อจอมแฉแแดนผู้ดีอ้างว่า เอ๊ด วู้ดเวิร์ด ผู้บริหารระดับสูงของทีม จัดสรรงบสำหรับล่าตัวแข้งรายนี้อีกครั้งที่มูลค่า 55 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,300 ล้านบาท)
ปัจจุบันสัญญาของอัลเดอร์ไวเรลด์ กับสเปอร์ส จะหมดลงหลังสิ้นสุดฤดูกาลนี้ ส่วนสัญญาฉบับใหม่ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้ข้อสรุป หรือจะจรดปากกาต่ออนาคตออกไปแต่อย่างใด ทั้งนี้ แม้ไก่เดือยทองจะมีเงื่อนไขขยายสัญญาอีก 1 ปี แต่ก็อาจตัดใจขายในราคาย่อมเยา ดีกว่าเสียฟรีในช่วงหมดสัญญา
4.แมทไธจ์ส เดอ ลิกต์ (อายแอ็กซ์)
เดอ ลิกต์ นักเตะวัย 19 ปีเจ้าของรางวัล “โกลเดน บอย 2018” หรือ นักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี เป็นนักเตะคนสำคัญทั้งกับต้นสังกัดอย่างอายแอ็กซ์ อัมสเตอดัม รวมถึงบทบาทในทีมชาติเนเธอร์แลนด์ด้วยเช่นกัน
ด้วยความสุขุมและแข็งแกร่งเกินวัย เซ็นเตอร์แบ๊กวัยละอ่อนชาวดัตช์ จึงกลายเป็นนักเตะที่มีอนาคตยาวไกล และปีศาจแดงควรคว้าตัวให้ได้ หากหวังปลุกปั้นมาใช้งานในระยะยาว
แมนฯ ยูไนเต็ด คงต้องเค้นพลังในการโน้มน้าวใจ บวกกับทุ่มเงินก้อนโตหากหวังกระชากตัวเดอ ลิกต์ ลงหลุม เนื่องจากบรรดาสโมสรชื่อดังในยุโรปหลายทีมให้ความสนใจเขาอยู่เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้, บาร์เซโลน่า หรือปารีส แซงต์แชร์แมง โดยคาดว่าค่าตัวของเขา อาจพุ่งสูงถึง 75 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,100 ล้านบาท)
5.นิโคล่า มิเลนโควิช (ฟิออเรนติน่า)
แนวรับชาวเซอร์เบียในวัย 21 ปี สามารถลงเล่นได้ทั้งปราการหลังตัวกลางและแบ๊กขวา ซึ่งเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับต้นสังกัด ในศึกกัลโช่ เซเรียอา อิตาลี รวมทั้งการช่วยบ้านเกิดฟาดแข้งศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียด้วยเช่นกัน
ด้วยผลงานที่แข็งแกร่ง มิเลนโควิชถูกหลายคนยกย่องว่าเป็นทายาทของ เนมานย่า วิดิช อดีตเซ็นเตอร์สุดแกร่งของปีศาจแดง และยังเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันในทีมชาติอีกด้วย
แข้งดาวรุ่งชาวเซิร์บ อาจเป็นคำตอบของเกมรับที่แมนฯ ยูไนเต็ดต้องการก็เป็นได้ เพราะเขาถูกซุ่มดูฟอร์มมาตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาลจากโชเซ่ มูรินโญ่ อดีตกุนซือที่ถูกตะเพิดพ้นทีม โดยคาดว่าค่าตัวของมิเลนโควิชนั้นอยู่ที่ 45 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,900 ล้านบาท) และมีข่าวว่าพลพรรคปีศาจแดง ได้เดินหน้าเจรจากับเอเย่นต์ของเจ้าตัวอยู่ในขณะนี้ด้วย!
แม้สื่ออังกฤษจะแฉว่าบอร์ดบริหารของปีศาจแดง อนุมัติงบให้เพียง 50 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,100 ล้านบาท) ในตลาดเดือนมกราคม แต่ทั้งนี้เชื่อว่าหากเป้าหมายที่กล่าวมาข้างต้นมีความเป็นไปได้ขึ้นมา บางทีเอ๊ด วู้ดเวิร์ด ซีอีโอของแมนฯ ยูไนเต็ด อาจจะวิ่งหอบเงินก้อนโตมากระชากตัวเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับแฟนบอลมากกว่า 1 คนก็เป็นได้
ค่าตัวของบรรดากองหลังทั้งหลาย ไม่ว่าจะแพงแค่ไหน แต่อย่างไรก็ไม่เกินกำลังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ลงทุนเจียดเงินสักก้อนมาแก้ปัญหาแนวรับ ปรับทีมอีกนิดหน่อย
ไม่แน่ว่าโซลชาร์อาจเป็นผู้ปลุกปีศาจแดงผงาดสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
