สกู๊ปพิเศษ : สรุป 10 ข่าวเด่น กีฬาต่างประเทศ แห่งปี 2561

ในรอบปี 2561 ที่ผ่านมา วงการกีฬาโลกมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย ทั้งเรื่องน่ายินดี ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ ความปราชัยอย่างผิดคาด และโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น “ทีมข่าวมติชนกีฬา” ขอรวบรวม 10 ข่าวเด่นกีฬาต่างประเทศ ประจำปี 2561 ให้คุณผู้อ่านได้ย้อนรอยความทรงจำกันอีกครั้งที่นี่

File Photo – AFP

‘ฝรั่งเศส’ ผงาดแชมป์ – ‘เยอรมนี’ ปีกหัก
ทีมชาติฝรั่งเศสซึ่งมีบรรดาแข้งสตาร์ดังคับคั่ง อาทิ คีเลียน เอ็มบัปเป้, อองตวน กรีซมันน์, ปอล ป๊อกบา, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, ราฟาเอล วาราน และ อูโก้ โยริส บวกกับมันสมองของ ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ กุนซือวัย 49 ปี ช่วยกันเอาชนะโครเอเชียไปอย่างสนุก 4-2 ผงาดครองแชมป์ฟุตบอลโลก 2018 เป็นแชมป์ลูกหนังโลกสมัยที่ 2 ของทีมตราไก่ต่อจากปี ค.ศ.1998 ในบ้านเกิดของตัวเอง

นอกจากนี้ยังทำให้เดส์ชองส์กลายเป็นโค้ชคนที่ 3 ของโลก ที่สามารถคว้าแชมป์โลกทั้งตอนสมัยเป็นนักเตะและผู้จัดการทีม ต่อจาก มาริโอ ซากัลโล่ ของทีมชาติบราซิล ที่เป็นแชมป์ในฐานะนักเตะปี 1958, 1962 แล้วคุมทีมเป็นแชมป์ ปี 1970 กับ ฟร้านซ์ เบ็คเคนเบาเออร์ อดีตกัปตันทีมชาติเยอรมนีปี 1974 และคุมทีมคว้าแชมป์ปี 1990

ขณะที่แชมป์เก่าปี 2014 อย่าง “อินทรีเหล็กเยอรมนี ต้องกระเด็นตกรอบแบ่งกลุ่มตั้งแต่ไก่โห่ เป็นครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์ ที่แชมป์เก่าต้องมาตกรอบแรกในการแข่งขันสมัยต่อไป ตามรอยฝรั่งเศส แชมป์โลก 1998, อิตาลี แชมป์โลก 2006 และ สเปน แชมป์โลก 2010

Advertisement
Photo – Facebook : Manchester United

‘หมูป่า อะคาเดมี่’ กับความห่วงใยจากวงการลูกหนังโลก
เหตุการณ์น้องๆ ทีม หมูป่า อะคาเดมี่ นักฟุตบอลเยาวชน 12 ชีวิต พร้อมโค้ชอีก 1 คน ประสบเหตุติดอยู่ภายในถ้ำหลวง ท่ามกลางน้ำท่วมสูง ที่จังหวัดเชียงราย ระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน – 10 กรกฎาคม เกิดเหตุคาบเกี่ยวกับมหกรรมฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย พอดิบพอดี

เหตุการณ์นี้ส่งผลให้เกิดกระแสความห่วงใยจากทุกมุมของวงการลูกหนังโลก โดยมีนักฟุตบอลระดับโลก ทั้ง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงจอมสับชาวโปรตุกีส, ลิโอเนล เมสซี่ ยอดแนวรุกชาวอาร์เจนไตน์ และอีกมากมาย ต่างออกมาส่งกำลังใจให้บรรดาเยาวชนลูกหนังให้รอดปลอดภัย

หลังจากน้องๆ ทุกคนพักฟื้นร่างกายเต็มที่และกลับมาแข็งแรงดังเดิม ก็ได้ออกเดินทางตามคำเชิญจากนานาประเทศ เช่น ออกรายการทอล์กโชว์ชื่อดังของสหรัฐ โดยมี ซลาตัน อิบราฮิโมวิช แข้งจอมเก๋าชาวสวีเดน เป็นแขกเซอร์ไพรส์ และการบุกเยือนสนามซ้อมของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบปะนักเตะชุดใหญ่ของทีมแบบครบครัน รวมถึง โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือในตอนนั้น ที่เคยออกตัวว่าติดตามข่าวการช่วยเหลืออย่างใกล้ชิดยิ่งกว่าศึกฟุตบอลโลกเสียอีก

Advertisement
File Photo – Reuters

‘เจ้าสัววิชัย’ ความสูญเสียครั้งใหญ่ของวงการลูกหนัง
นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่สำหรับการจากไปอย่างกะทันหันของ วิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานสโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ จากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกบริเวณข้างสนามคิงเพาเวอร์ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 27 ตุลาคม ขณะกลับจากการชมเกมการแข่งขันที่เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดบ้านเสมอกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1

เหตุการณ์อันน่าเศร้าครั้งนี้ ทำให้ทั้งนักเตะและแฟนบอลต่างเสียใจเป็นอย่างยิ่ง โดยมีผู้คนจากทั่วสารทิศ เดินทางไปร่วมวางดอกไม้ เสื้อสโมสร ผ้าพันคอ และสิ่งของต่างๆ บริเวณหน้าสนามจำนวนมาก

ยิ่งเวลาผ่านไป โศกนาฏกรรมนี้ได้กลายเป็น “ปรากฏการณ์” เมื่อคนในแวดวงลูกหนังโลกทั้งอดีตและปัจจุบันต่างออกมาแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง และเรียกเจ้าสัววิชัยว่า “มิราเคิลแมน” เพราะตั้งแต่เข้าไปซื้อหุ้นใหญ่ของเลสเตอร์ ซิตี้ ในปี 2010 เจ้าสัวก็พัฒนาทีมด้วยความทุ่มเท จนกระทั่งฤดูกาล 2015-16 เลสเตอร์ ซิตี้ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้อย่างมหัศจรรย์ เพราะเป็นม้านอกสายตาที่ปาดหน้าบรรดายักษ์ใหญ่ซิวโทรฟี่ได้สำเร็จ

คนลูกหนังจำนวนมากยกย่องว่า เจ้าสัวช่วยจุดประกายและเป็นแรงบันดาลใจของบรรดาทีมเล็กๆ ว่าพวกเขาก็สามารถทำสิ่งที่เหลือเชื่อให้เป็นความจริงได้

นอกจากนี้ เจ้าสัววิชัยยังบริจาคเงินสนับสนุนเมืองเลสเตอร์ในด้านต่างๆ เช่น ด้านการแพทย์, การศึกษา และองค์กรการกุศลอีกหลายแห่ง จนเข้าไปอยู่ในใจของชาวเมืองเลสเตอร์ทุกๆ คนตลอดกาล

‘โมดริช’ ปาดหน้า ‘โรนัลโด้-เมสซี่’ คว้าบัลลงดอร์ รอบ 10 ปี
ลูก้า โมดริช กองกลางทีมชาติโครเอเชีย และของ “ราชันชุดขาว” รีล มาดริด คว้ารางวัล “บัลลงดอร์” หรือนักเตะยอดเยี่ยม จัดโดยนิตยสาร ฟร้องซ์ ฟุตบอล ประจำปี 2018 ไปครอง ซึ่งถือเป็นนักเตะคนแรกในรอบ 10 ปี ที่ผงาดคว้ารางวัลดังกล่าวโดยสามารถเอาชนะ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ สตาร์ดังชาวโปรตุกีส และ ลิโอเนล เมสซี่ ยอดแนวรุกชกของบาร์เซโลน่า 2 นักเตะผู้ผลัดกันครองรางวัลสุดยิ่งใหญ่ตลอดในช่วงหลังได้สำเร็จ

จอมทัพชาวโครแอต ได้รับคะแนนโหวตท่วมท้น 735 คะแนน ขณะที่อันดับ 2 เป็นของโรนัลโด้ ของยูเวนตุส 476 คะแนน ตามมาด้วยอองตวน กรีซมันน์ แข้งเลือดน้ำหอมจากแอตเลติโก้ มาดริด 414 คะแนน

กองกลางทีมชาติโครเอเชีย ในวัย 33 ปี คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ติดต่อกันเป็นปีที่ 3 ก่อนที่จะสร้างประวัติศาสตร์พาทีมชาติเข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2018 และจบลงด้วยตำแหน่งรองแชมป์ ทำให้กลายเป็นผู้เล่นคนแรกต่อจาก ริคาร์โด้ กาก้า อดีตแนวรุกทีมชาติบราซิล ซึ่งเป็นคนสุดท้ายที่คว้ารางวัลนี้เมื่อปี 2007 ก่อนจะถูกโรนัลโด้และเมสซี่ครองความยิ่งใหญ่มาตลอดช่วง 10 ปีหลัง

นับเป็นรางวัลส่วนตัวรางวัลที่ 3 ของโมดริชในปีนี้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) รวมไปถึงรางวัลโกลเด้น บอล หลังจากจบการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซีย

Photo – Juventus

‘โรนัลโด้’ ย้ายซบ ‘ยูเวนตุส’ – พัวพันคดีฉาว
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ แข้งซูเปอร์สตาร์ วัย 33 ปี ทำเซอร์ไพรส์แฟนบอล ย้ายออกจาก รีล มาดริด ทีมดังลาลีก้า สเปน ไปอยู่กับ ยูเวนตุส ยักษ์ใหญ่ของอิตาลี ด้วยสัญญา 4 ปี ค่าตัว 100 ล้านยูโร (ประมาณ 3,800 ล้านบาท) เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม

โรนัลโด้ เป็นเจ้าของสถิติยิงประตูสูงสุดของชุดขาวที่ 451 ประตู จากการลงเล่น 438 นัด ตลอด 9 ฤดูกาล นอกจากนี้ยังคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก 4 สมัย, แชมป์ลาลีก้า 2 สมัย อีกทั้งยังได้รางวัลบัลลงดอร์มาครองขณะสวมชุดขาวถึง 4 สมัย

พอย้ายไปอยู่สังกัดใหม่ ใช้เวลาปรับจูนไม่นาน โรนัลโด้ก็กลับมาเป็นคนเก่า ทำประตูเป็นกอบเป็นกำจนไม่น่าพลาดแชมป์ลีกปีนี้อีกครั้ง

ทว่าชีวิตก็ใช่จะมีแต่เรื่องดีๆ อย่างเดียว เพราะเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจนครลาสเวกัสยืนยันว่า ได้รื้อฟื้นคดีที่ แคธรีน มายอร์ก้า อดีตนางแบบชาวอเมริกันวัย 34 ปี แจ้งความว่าโดนแข้งดังชาวโปรตุกีสใช้กำลังข่มขืนที่ห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่งเมื่อเดือนมิถุนายนปี 2009

อย่างไรก็ตาม โรนัลโด้ยืนกรานปฏิเสธเรื่องดังกล่าวอย่างถึงที่สุด ขณะที่กระบวนการค้นหาความจริงก็คงต้องรอการสืบสวนต่อไปอีกครั้ง เพราะบทสรุปของเรื่องนี้ไม่มีทีท่าว่าจะจบลงง่ายๆ แน่นอน

ปีทองของ ‘โปรเม เอรียา’ – ‘วู้ดส์’ คัมแบ๊กแชมป์รอบ 5 ปี
“โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล นักกอล์ฟสาวชาวไทย ระเบิดฟอร์มสะวิงอันร้อนแรง กวาด 3 แชมป์ในรอบปี ได้แก่ แชมป์ “คิงส์มิลล์ แชมเปี้ยนชิพ”, แชมป์ระดับเมเจอร์ “ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น” และแชมป์ “เลดี้ส์ สกอตติช โอเพ่น” นอกจากนี้โปรสาวไทยยังหวนคืนบัลลังก์มือ 1 โลก เป็นครั้งที่ 3 ในชีวิต เมื่อวันจันทร์ที่ 29 ตุลาคม

โปรเมได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นนักอล์ฟคนแรกที่กวาดทุกรางวัลใหญ่ของแอลพีจีเอทัวร์ช่วงปลายปี ได้แก่ 1.ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี 2.นักกอล์ฟที่ทำผลงานในระดับเมเจอร์ดีที่สุด 3.ทำเงินสูงสุดแห่งปี 4.นักกอล์ฟที่จบ 10 อันดับแรกมากที่สุดแห่งปี 5.นักกอล์ฟที่ทำคะแนนเฉลี่ยต่ำสุดแห่งปี และ 6.นักกอล์ฟที่ทำคะแนนสะสม Race to CME Globe สูงที่สุด

ด้าน “พญาเสือ” ไทเกอร์ วู้ดส์ อดีตนักกอล์ฟหมายเลข 1 ของโลกชาวอเมริกัน ก็กลับมาผงาดคว้าแชมป์พีจีเอทัวร์หนแรกของตัวเองในรอบกว่า 5 ปี จากศึก “ทัวร์ แชมเปี้ยนชิพ” ที่สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 23 กันยายน และถือเป็นแชมป์พีจีเอทัวร์รายการที่ 80 ของเขา

ก่อนหน้านี้ โปรมือเก๋าวัย 42 ปี หายหน้าจากวงการกอล์ฟนานเกือบ 2 ปี เพราะปัญหาเจ็บหลังที่ต้องผ่าตัดรักษาหลายรอบ โดยก่อนหน้ารายการนี้ วู้ดส์คว้าแชมป์เวิลด์ กอล์ฟ แชมเปี้ยนชิพ “บริดจสโตน อินวิเตชั่นแนล” เมื่อปี 2013 หรือย้อนไป 1,876 วันที่แล้ว

File Photo – REUTERS

‘เซเรน่า’ วีนแตกแมตช์ชิงยูเอสโอเพ่นกับ ‘นาโอมิ’
เซเรน่า วิลเลียมส์ อดีตนักเทนนิสมือ 1 ของโลกชาวอเมริกัน ออกอาการวีนแตกใส่อัมไพร์อย่างรุนแรง จนเสียสมาธิก่อนพ่ายให้ นาโอมิ โอซากะ คู่แข่งม้ามืดจากญี่ปุ่น 2 เซตรวด 2-6, 4-6 ในรอบชิงชนะเลิศ “ยูเอส โอเพ่น” ที่ฟลัชชิ่ง เมโดว์ส นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 8 กันยายน

เหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มต้นจากอัมไพร์ คาร์ลอส รามอส เตือนเซเรน่าว่าเธอแอบฟังคำแนะนำจากโค้ชระหว่างเกม ซึ่งผิดกฎการแข่งขัน แต่นักหวดสาวคุณแม่ลูกหนึ่งเถียงหัวชนฝา พร้อมเรียกร้องให้รามอสขอโทษและถอนคำพูด ก่อนจะโดนเตือนอีก 2 ครั้ง จากการฟาดแร็กเกตจนหัก และกล่าวหารามอสว่าเป็นโจรปล้นคะแนนของเธอ โดย 1 วันถัดมา สมาคมเทนนิสแห่งสหรัฐอเมริกา ประกาศปรับเงินเซเรน่า เป็นจำนวน 17,000 ดอลลาร์สหรัฐ (561,000 บาท)

กรณีปัญหาของเซเรน่าทำให้โอซากะ นักหวดสาวลูกครึ่งญี่ปุ่น-เฮติถึงกับน้ำตาร่วงในพิธีมอบรางวัล และต้องกล่าวขอโทษแฟนๆ ด้วยความรู้สึกกดดันอย่างหนัก ทั้งที่เธอสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักหวดเชื้อสายญี่ปุ่นคนแรกที่คว้าแชมป์ประเภทเดี่ยวในรายการระดับแกรนด์สแลมมาครอง แต่กลับกลายเป็นว่าแฟนๆ และสื่อกลับจะจดจำเหตุวิวาทะอย่างเผ็ดร้อนของเซเรน่ากับอัมไพร์แทน

‘คิงเจมส์’ ลา ‘คลีฟแลนด์’ ซบ ‘เลเกอร์ส’
เลอบรอน เจมส์ ยอดนักบาสชื่อดังแห่งยุคแห่งศึกบาสเกตบอลเอ็นบีเอ เซ็นสัญญา 4 ปี มูลค่า 154 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 5,082 ล้านบาท) ย้ายร่วมทีมแอลเอ เลเกอร์ส เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2018 พร้อมค่าเหนื่อยปีละ 35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,155 ล้านบาท)

ถือเป็นครั้งที่ 3 ในรอบ 8 ปี ที่เจมส์เปลี่ยนสังกัดใหม่ในฐานะผู้เล่นฟรีเอเยนต์ นับตั้งแต่ย้ายจากคลีฟแลนด์ ไปร่วมทีมไมอามี ฮีต ในปี 2010 ก่อนจะกลับมาเล่นให้คาวาเลียร์ส อีกครั้งในปี 2014

‘คิงเจมส์’ พาคลีฟแลนด์ คว้าแชมป์เอ็นบีเอเมื่อปี 2016 ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบ 52 ปีของทีม ทั้งสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นทีมแรกที่ตกเป็นฝ่ายตามหลัง 1-3 เกม แต่พลิกกลับมาชนะโกลเดนสเตท วอริเออร์ส 4-3 เกม และคว้าแชมป์ได้ในที่สุด และเจมส์ยังซิวรางวัลผู้เล่นทรงคุณค่าประจำรอบไฟนอลไปครอง

เมื่อย้ายไปอยู่กับเลเกอร์สก็ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นของตัวเอง เป็น “เดอะ แบก” พาทีมทำสถิติดี มีลุ้นเข้าไปเล่นรอบเพลย์ออฟในรอบหลายปีเลยทีเดียว

‘โยโควิช’ สลัดเจ็บกวาด 4 แชมป์ พร้อมทวงมือ 1 โลก
ก่อนหน้านี้ โนวัก โยโควิช อดีตนักเทนนิสมือ 1 ของโลกชาวเซอร์เบีย เคยหล่นไปอยู่ที่ 22 ของโลกในช่วงเดือนพฤษภาคม เมื่อต้องเข้ารับการผ่าตัดข้อศอกที่เจ็บเรื้อรังในเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนกลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงครึ่งปีหลัง กวาดแชมป์ต่างๆ ถึง 4 รายการ ประกอบด้วย ศึกแกรนด์แสลม “วิมเบิลดัน” เมื่อเดือนกรกฎาคม ตามมาด้วยแชมป์ “ซินซินเนติ มาสเตอร์ส” ที่สหรัฐอเมริกา

ต่อมา นักหวดชาวเซิร์บคว้าแชมป์แกรนด์สแลม “ยูเอส โอเพ่น” นับเป็นแชมป์แกรนด์แสลม ครั้งที่ 14 เทียบเท่า พีต แซมพราส ตำนานสักหลาดชาวอเมริกัน กลายเป็นสถิติสูงสุดตลอดกาลอันดับ 3 เป็นรองเพียง โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ จากสวิตเซอร์แลนด์ ที่ทำไว้ 20 ครั้ง และ ราฟาเอล นาดาล จากสเปน ซึ่งทำได้ 17 ครั้ง

โนเล่คว้าแชมป์สุดท้ายของปีในศึก “เซี่ยงไฮ้ มาสเตอร์ส” ที่ประเทศจีน ก่อนจบรองแชมป์ในศึก “ปารีส มาสเตอร์ส” ที่ประเทศฝรั่งเศส จะส่งผลให้เขากลับขึ้นไปเป็นแร็กเกตชายมือ 1 ของโลกอีกครั้งในรอบ 2 ปี

File Photo – Reuters

ลาก่อนรถบัส ‘ปีศาจแดง’ ประกาศตะเพิด ‘มูรินโญ่’
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ประกาศปลด โชเซ่ มูรินโญ่ กุนซือจอมหัวร้อนของทีมพ้นจากการเป็นเฮดโค้ช เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม หลังพาทีมทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ หมดลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์

นอกจากนี้ จ่ามูยังมีปัญหากับนักเตะชื่อดังหลายรายในทีม โดยเฉพาะ ปอล ป๊อกบา มิดฟิลด์ดีกรีแชมป์โลกชาวฝรั่งเศส และ อองโตนี่ มาร์ซิยาล กองหน้ามากพรสวรรค์ชาวฝรั่งเศส ส่งผลให้แผนรถบัสของทีมไร้ประสิทธิภาพ การเล่นเกมบุกก็เฉื่อยชา ไร้จิตวิญญาณปีศาจแดงอย่างสิ้นเชิง

สื่ออังกฤษรายงานว่า แมนฯยูต้องจ่ายค่าชดเชยในการตะเพิดกุนซือชาวโปรตุกีสสูงถึง 24 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,000 ล้านบาท)

สำหรับผลงานของมูรินโญ่ตลอดระยะเวลา 2 ปีครึ่งกับปีศาจแดง คือการพาทีมคว้าแชมป์ยูโรป้าลีก และถ้วยลีกคัพ ในฤดูกาล 2016-17 ทั้งที่เป็นการเข้ามาคุมทีมในปีแรก

ในเวลาต่อมาแมนฯ ยูไนเต็ด ได้ประกาศแต่งตั้ง โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ อดีตดาวยิงซุปเปอร์ซับผู้คว้าทริปเปิลแชมป์กับปีศาจแดง เจ้าของฉายา “เพชฌฆาตหน้าทารก” ขึ้นมาเป็นกุนซือแบบชั่วคราวจนกระทั่งจบซีซั่น และพาทีมทำผลงานในช่วงเริ่มต้นได้อย่างสวยงาม

ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
เพิ่มเพื่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image