เกรียนเขียนบอล : หมดฮันนีมูน

เมื่อช่วงเปิดฤดูกาลที่ผ่านมาทีมหนึ่งที่ทำผลงานได้ค่อนข้างเซอร์ไพรส์มากๆ นั่นก็คือ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ของกุนซือ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ที่เพิ่งเข้ามาทำงานเป็นปีแรก

แน่นอนว่าด้วยความที่ทุกอย่างเป็นของใหม่หมด ซาร์รี่ เพิ่งมาจาก นาโปลี มาเจอกับพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรก ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่มีเครื่องหมายคำถามว่าจะทำผลงานได้ดีแค่ไหน

แต่ว่าซาร์รี่เข้ามาปรับสไตล์ของสิงโตน้ำเงินครามใหม่ จากเดิมในยุคของ อันโตนิโอ คอนเต้ ที่ใช้ระบบ 3-4-3 กลับมาเล่นในระบบ 4-3-3 และก็เปิดเกมรุกเดินหน้ายิงใส่คู่แข่งแบบไม่ยั้ง

เชลซีออกสตาร์ทราวกับเป็นทีมลุ้นแชมป์ รักษาสถิติไร้พ่ายได้จนถึงเกมที่ 12 ซึ่งก่อนหน้านั้นเกมรุกทำได้ถึง 27 ประตู แต่ทว่าหลังจากที่ถูกเปิดแผลแรกโดยอริร่วมเมืองอย่าง “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ซึ่งเอาชนะพวกเขาไป 3-1 ก็ดูเหมือนเกมของซาร์รี่จะเริ่มชะงักลง

Advertisement

หลังจากนั้นมา 11 นัด เชลซีทำได้เพียง 13 ประตูเท่านั้น เรียกว่าหายไปจากช่วงต้นเกือบครึ่งทีเดียว แม้จะมีผลงานชิ้นโบว์แดงคือการเป็นทีมแรกที่ชนะ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ แต่ก็โดนหักล้างไปหมดกับผลงานบุกพ่าย วูล์ฟแฮมป์ตัน หรือเจอ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ บุกมายิงถึงถิ่น

แถมนับตั้งแต่ที่แพ้ให้กับสเปอร์ส พวกเขาแพ้ไปแล้วถึง 4 เกม เสมออีก 1 จากเดิมที่แต้มเบียดๆ กับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล และแมนฯ ซิตี้ ตอนนี้กลายเป็นโดนทิ้งห่างไปถึง 13 คะแนน ลงมาอยู่อันดับ 4 นำหน้าทีมที่ไล่มาอย่าง “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล กับ “ปีศาจแดง” แมนฯ ยูไนเต็ด แค่ 3 คะแนนเท่านั้น

คำถามคือเกิดอะไรขึ้นกับเชลซีและซาร์รี่

Advertisement

คำตอบที่ได้น่าจะอยู่ในบทสัมภาษณ์อย่างร้อนแรงของซาร์รี่ หลังเกมที่พ่ายปืนใหญ่ 0-2 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา

กุนซืออิตาเลียนบอกว่าลูกทีมของเขานั้นขาดจิตใจที่มุ่งมั่น แถมยังกระตุ้นได้ยากมากๆ ไม่สามารถเล่นเกมอย่างมีคุณภาพได้เลย อีกทั้งทีมไม่ควรจะเป๋ยาวๆ ทั้งเกม ต้องรีบดึงสติตัวเองกลับมาเล่นในสไตล์ตัวเองให้ได้ แต่ในเกมกับอาร์เซน่อลนั้นทำไม่ได้เลย

ซาร์รี่ยังตบท้ายไว้ว่า ตอนนี้คงต้องเปิดใจคุยกัน ทัศนคติใครที่ไม่ดีก็อาจจะไม่คู่ควรกับทีม หรือหนักสุดคือเขาก็ต้องร่วมแสดงความรับผิดชอบด้วยเหมือนกัน

เรียกได้ว่าเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่ลงตูม! ไปยังตัวนักเตะที่คงสะดุ้งกันเป็นแถบๆ บ้าง การออกมาจวกนักเตะกลางสื่อแบบนี้ ทุกคนรู้ดีว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างแน่นอน และซาร์รี่เองก็ต้องเจอรีแอคชั่นจากนักเตะด้วย

อย่างที่เรารู้กันดีว่า สิงโตน้ำเงินคราม เป็นหนึ่งทีมที่เก่งมากๆ ในเรื่องของการ “เตะไล่โค้ช” ตั้งแต่โชเซ่ มูรินโญ่ มาจนถึงอันโตนิโอ คอนเต้ ถ้าหากนักเตะไม่พอใจก่อหวอดกันขึ้นมาจนซาร์รี่ไม่สามารถคุมห้องแต่งตัวนี้ได้อีก ก็จบกัน

ถือว่าช่วงเวลาฮันนีมูนมันจบลงแล้วสำหรับเชลซีกับซาร์รี่ แต่ทีนี้ชีวิตคู่จะอยู่กันได้นานแค่ไหนคือสิ่งที่ต้องรอดูคำตอบกันต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image