นับถอยหลัง “ซุปเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 53” ความเก๋า VS ความสด

คืนวันอาทิตย์ที่ 3 กุมภาพันธ์ หรือตรงกับเวลาไทยคือช่วงเช้าวันจันทร์ จะถึงวาระแห่งการชิงความเป็นหนึ่งของกีฬาคนชนคน กับศึก ซุปเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 53 ซึ่งปีนี้ สนามเมอร์เซเดส-เบนซ์ สเตเดียม ในเมืองแอตแลนตา รับหน้าเสื่อเป็นเจ้าภาพ

คู่ชิงปีนี้เป็นการพบกันระหว่างยอดทีม นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ แชมป์สายเอเอฟซี กับสถิติสุดหรู ดีกรีอดีตแชมป์ 5 สมัยที่เข้าชิงซุปเปอร์โบว์ลเป็นปีที่ 3 ติดต่อกัน โดยจะพบกับ แอลเอ แรมส์ แชมป์สายเอ็นเอฟซี ซึ่งแม้จะเคยเป็นแชมป์สูงสุดของลีกคนชนคนมา 3 สมัย แต่ 2 ครั้งแรกต้องย้อนไปตั้งแต่ก่อนการรวมลีก ส่วนตอนที่ได้แชมป์ซุปเปอร์โบว์ลจริงๆ คือในปี 1999 หรือเมื่อ 20 ปีที่แล้ว

หากวัดกันด้วยสถิติและผลงาน อย่างไรเสีย แพทริออตส์ก็ดูดีกว่าทั้งชื่อชั้นและประสบการณ์ อย่างไรก็ตาม การเข้าถึงรอบชิงซุปเปอร์โบว์ลในครั้งนี้ เรียกได้ว่าทีมนักรบกู้ชาติต้องฝ่าด่านแบบหืดจับ
ในรอบชิงแชมป์สายเอเอฟซี “แพ็ตส์” เจอศึกหนักกับ แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ แม้จะนำไป 14-0 หลังจบครึ่งแรก แต่มาโดนชีฟส์ตีตื้น โดยเฉพาะในควอเตอร์สุดท้ายที่ทำรวดเดียว 24 คะแนน และได้ฟิลด์โกลตีเสมอ 31-31 ขณะเหลือเวลาไม่ถึงนาที

สุดท้ายในช่วงต่อเวลา เร็กซ์ เบิร์กเฮด ตัววิ่งแพทริออตส์จึงอุ้มลูกเข้าเอนด์โซนเป็นทัชดาวน์ให้ทีมเฉือนชนะไปในที่สุด 37-31

Advertisement

ด้านแรมส์กว่าจะมาถึงซุปเปอร์โบว์ลก็มีประเด็นไม่น้อยไปกว่ากัน เนื่องจากชัยชนะเหนือ นิวออร์ลีนส์ เซนต์ส 26-23 ในการเล่นต่อเวลารอบชิงแชมป์สายเอ็นเอฟซีกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เรื่องคำตัดสินที่ไม่เป็นธรรม

เนื่องจากจังหวะที่ ดรูว์ บรีส์ ควอเตอร์แบ๊กของเซนต์สขว้างดาวน์ที่ 3 ให้ปีก ทอมมี่ลี ลูอิส นั้น กรรมการไม่ยอมเป่าฟาวล์ตัวคุมปีกของแรมส์ที่เอาหมวกไปกระแทกหมวกของลูอิส

ถ้ามีการทำโทษตามที่ควรจะเป็น เซนต์สจะได้เล่นดาวน์แรกใหม่ และมีโอกาสสูงที่จะรุกเข้าเอนด์โซนทำทัชดาวน์ได้ แต่พอไม่ได้จึงได้แค่เตะฟิลด์โกลจนแต้มหายไป 4 คะแนน

Advertisement

ต่อมามีการขุดคุ้ยว่า กรรมการ 4 คนที่ทำหน้าที่ในนัดนั้นล้วนเป็นคนแคลิฟอร์เนียใต้ จึงโดนวิจารณ์หนักว่าอาจลำเอียงช่วยแรมส์ที่เหมือนทีมจากท้องถิ่นเดียวกัน

แม้ว่าเอ็นเอฟแอลจะออกมาปฏิเสธความลำเอียงดังกล่าวแต่ก็ยอมรับตรงๆ ว่าผู้ตัดสินทำพลาดไปอย่างแรง

บิล เบลิชิค และทอม เบรดี้

ส่วนเรื่องนัดชิงซุปเปอร์โบว์ลนั้น เมื่อเทียบกันในหลายๆ เรื่อง ยังไงแพทริออตส์ก็เหนือกว่ามาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีคนคู่สุดแกร่งอย่างเฮดโค้ช บิล เบลิชิค และสุดยอดควอเตอร์แบ๊ก ทอม เบรดี้

ทั้ง 5 แชมป์ของทีมนักรบกู้ชาติเริ่มออกสตาร์ตตั้งแต่ปี 2001 ล้วนมาจากฝีมือของทั้ง 2 คนนี้ หากทำได้อีกครั้ง แพ็ตส์จะมีสถิติคว้าแชมป์ซุปเปอร์โบว์ลสูงสุด 6 สมัย เท่ากับ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ทันที

เบรดี้ยังเป็นเจ้าของสถิติสูงสุดของซุปเปอร์โบว์ลมากมาย ทั้งคว้าแชมป์มากที่สุด, เข้าชิงมากที่สุด (9 ครั้ง), คว้าเอ็มวีพีของนัดชิงมากที่สุด (4 ครั้ง), ขว้างทัชดาวน์มากที่สุด (18 ครั้ง) และทำระยะรวมสูงสุด (2,576 หลา)

แม้อายุจะปาเข้าไป 41 ปี อาจไม่เร็ว ไม่แกร่งหรืออึดเท่าแต่ก่อน แต่ก็ทดแทนด้วยความเก๋าเกมและความนิ่งจากประสบการณ์มากมายที่สั่งสม

จาเร็ด จอฟฟ์

ด้านแรมส์ทั้งโค้ชและควอเตอร์แบ๊กถือว่ายังเป็นคนหนุ่ม ชอน แม็คเวย์ เฮดโค้ช อายุแค่ 32 ปี เป็นโค้ชอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ที่พาทีมเข้าชิงซุปเปอร์โบว์ล ส่วน จาเร็ด จ็อฟฟ์ ควอเตอร์แบ๊กของแรมส์ก็เพิ่งอายุ 24 ปีเท่านั้น

สมาชิกในทีมแรมส์เกือบทั้งหมดไม่เคยผ่านประสบการณ์เล่นในซุปเปอร์โบว์ลมาก่อน ยังดีว่าโค้ชทีมรับ เวด ฟิลิปส์ เคยช่วย เดนเวอร์ บรองโก้ส์ คว้าแชมป์เมื่อ 3 ปีที่แล้วมา จึงอาจจะพอช่วยอะไรได้บ้าง

แน่นอนว่าจุดเด่นของแพทริออตส์คือทีมบุกอันยอดเยี่ยม ขนาดเจอกับชีฟส์ที่มีสถิติแซคควอเตอร์แบ๊กมากที่สุดในลีก ก็ยังไม่เปิโอกาสให้เบรดี้โดนแซคแม้แต่ครั้งเดียวในรอบชิงแชมป์สาย

แต่แรมส์เองก็มีเกมรับที่ไม่ธรรมดา สามารถสร้างความปั่นป่วนให้กับดรูว์ บรีส์ ควอเตอร์แบ๊กของเซนต์สได้ในช่วงครึ่งหลังของรอบชิงแชมป์สาย บีบให้ต้องปล่อยลูกเร็ว และเสี่ยงต่อความผิดพลาดได้ ซึ่งคงต้องรอดูกันต่อไปว่าถึงเวลาจริงจะมีประสิทธิภาพขนาดไหน

อีกหนึ่งไฮไลต์ของซุปเปอร์โบว์ลที่หลายคนตั้งตาคอย คือโชว์พักครึ่งเวลาจากศิลปินดังซึ่งปีนี้ได้วงร็อค มารูน 5 มาเป็นตัวชูโรง ร่วมกับแร็ปเปอร์ ทราวิส สก็อตต์ และ บิ๊ก บอย

สำหรับคอกีฬาคนชนคนที่ลุ้นกันมาตลอดทั้งปี ห้ามพลาดติดตามช่วงเช้าวันจันทร์นี้ตามเวลาบ้านเรา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image