| ผู้เขียน | เอคูสติก |
|---|---|
| เผยแพร่ |
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล บุกเสมอ “ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 ถือเป็นการเสมอ 2 นัดติดในเกมพรีเมียร์ลีก และถึงจะยังนำจ่าฝูงอยู่ แต่แต้มก็ห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมอันดับ 2 อยู่ 3 แต้มเท่านั้น
เกม 6 นัดหลังสุดของทีมหงส์แดง พวกเขามีอาการเป๋ให้เห็นอยู่บ่อยๆ เริ่มจากแพ้แมนฯซิตี้ 1-2 ในเกมลีก ต่อด้วยแพ้วูล์ฟส์ 1-2 ในเอฟเอคัพ ถึงแม้จะชนะคริสตัล พาเลซ 4-3 แต่ต้องบอกว่าการเสีย 3 ประตู แสดงให้เห็นถึงสภาพแนวรับที่ไม่แน่นพอ พร้อมโดนได้ตลอดเช่นกัน 3 เกมหลังสุด ชนะไบรตัน 1-0 ก็ต้องลุ้นจากลูกจุดโทษ แล้วมาโดนทั้งเลสเตอร์และเวสต์แฮมไล่ตีเสมอได้
เรียกได้ว่าเกมรุกไม่โหดเหมือนก่อนหน้านี้ และเกมรับไม่ได้ดีเหมือนเดิม ก่อนหน้านี้ อลิสซอน เป็นผู้รักษาประตูที่เสียประตูยากคนหนึ่ง เสียไม่เกิน 1 ประตูมาตลอด จนความพ่ายแพ้นัดแรกในฤดูกาลให้แมนฯซิตี้ เป็นครั้งแรกที่โดนยิง 2 ลูกในลีก หลังจากนั้นก็โดนเจาะประตูบ่อยขึ้น
ขณะที่เกมรุกที่ยิงกระจายในช่วงครึ่งแรกของฤดูกาล ก็แผ่วลงไปมาก ถึงจะมีโอกาสลุ้นประตูมากกว่าคู่แข่งหลายเท่า และครองบอลมากกว่าชัดเจน เกมกับเวสต์แฮม หงส์แดงครองบอล 73 เปอร์เซ็นต์ ยิงเข้ากรอบ 8 ครั้ง แต่ได้ 1 ประตู เท่าเวสต์แฮมที่ยิงเข้ากรอบ 2 ครั้ง สกอร์จบที่เท่ากัน
อีกประเด็นที่น่าสนใจ ในเกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ประตูที่ ซาดิโอ มาเน่ ยิงขึ้นนำ 1-0 ก่อนหน้านั้น เจมส์ มิลเนอร์ อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อนจะผ่านบอลมาให้มาเน่ นับเป็น 1 แต้มที่ไม่น่าพอใจ แต่มองในมุมกลับพวกเขาโชคดีที่ยังได้แต้มกลับออกมา เพราะถ้าลูกนั้นถูกยกให้เป็นลูกล้ำหน้า หงส์แดงอาจจะแพ้กลับบ้านไปเลยก็ได้
การลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกตอนนี้ถือว่าเริ่มเปิดกว้างอีกครั้ง เพราะช่องว่าง 3 แต้ม ถือว่าน้อยมาก ลิเวอร์พูลพลาดแพ้นัดเดียว แมนฯซิตี้ก็มีสิทธิขยับมาแต้มเท่าได้ทันที แถมสเปอร์ส ทีมอันดับ 3 ก็ตามอยู่ 5 แต้มเท่านั้น ถ้าสองทีมหัวตารางเกิดพลาดขึ้นมา โอกาสสลับตำแหน่งก็มีให้เห็นแน่ๆ
ช่วงปลายเดือน ลิเวอร์พูลต้องออกไปเยือนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อด้วยต้นเดือนมีนาคมจะต้องไปเยือนเอฟเวอร์ตัน ซึ่งถือเป็นแมตช์ศักดิ์ศรีทั้งนั้น ระหว่างนั้นก็มีเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับบาเยิร์น มิวนิค ซึ่งแมนฯซิตี้เองก็เจองานหนักเช่นกัน ทั้งเกมลีกและลีกคัพ รอบชิงชนะเลิศ ที่จะเจอเชลซีทั้งสองนัด ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกกับชาลเก้ นับเป็นช่วงเวลาวัดใจและทดสอบความแข็งแกร่งของทั้งคู่อย่างแท้จริง
หงส์แดงเริ่มดร็อปลง ขณะที่ซิตี้ไม่สม่ำเสมอ พร้อมจะแพ้ได้ทุกทีมเช่นกัน พรีเมียร์ลีก 10 กว่านัดที่เหลือ คงได้เห็นการบี้กันอย่างสนุกของทั้งสองทีม ไม่ขาดลอยเหมือนที่ซิตี้ได้แชมป์ปีที่แล้ว อาจจะต้องลุ้นจนตัวโก่ง แต่นับเป็นกำไรของแฟนบอลโดยแท้จริง
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
