| ผู้เขียน | เอคูสติก |
|---|---|
| เผยแพร่ |
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถล่ม เชลซี เละเทะ 6-0 แบบบอลคนละคลาส แค่ 25 นาทีแรกของเกมก็โดนไปแล้ว 4-0 ทั้งๆ ที่ก่อนเกม แฟนบอลมองว่าสิงโตน้ำเงินครามทีมนี้จะช่วยหยุดความป่าเถื่อนของเรือใบสีฟ้า และทำให้ ลิเวอร์พูล คืนจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกแบบถาวรได้ โดยเฉพาะแฟนหงส์แดงเองที่ให้กำลังใจเชลซีกันเต็มโซเชียล
อย่างไรก็ตามถ้าดูจากสถิติของเชลซีก่อนแมตช์นี้แล้ว ทีมของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ไม่สามารถยิงประตูนอกบ้านได้เลยตั้งแต่เข้ามาปี 2019 มา เกมรับผุพัง โดน อาร์เซน่อล ปราบ 2-0 บอร์นมัธ อีก 4-0 ก่อนจะมาเจอแมนฯซิตี้เล่นงานอีก 6 ลูก
เชลซีตอนนี้มีปัญหาคล้ายๆ ช่วงปลายของ โชเซ่ มูรินโญ่ หรือ อันโตนิโอ คอนเต้ ทำทีม คือ การที่นักเตะไม่ค่อยมีใจจะลงเล่น ไม่ใส่เต็มร้อย ทำให้ฟอร์มของทีมแย่อย่างต่อเนื่อง ซาร์รี่เคยยอมรับก่อนเกมที่แพ้อาร์เซน่อล 0-2 ว่าเป็นเรื่องยากที่จะปลุกใจให้ลูกทีมฮึกเหิมได้ ถ้ามองนักเตะอย่าง เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ที่ฟอร์มสม่ำเสมอมานาน ช่วงหลังดูเงียบไป มาตรฐานการตัดเกมเชื่อมเกมวูบลงไป เอเด็น อาซาร์ ยิงประตูน้อยลง 6 นัดหลังในลีก เขายิงได้เพียง 2 ลูกเท่านั้น
ประเด็นการย้ายทีมของอาซาร์กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลังจากจบแมตช์แพ้ซิตี้ แฟนบอลจำนวนมากในโลกโซเชียลโพสต์ขอให้เขาย้ายทีมออกไปมีอนาคตที่ดีกว่า ไม่ใช่แค่อาซาร์ แต่รวมทั้งก็องเต้, อันโตนิโอ รูดิเกอร์ หรือแม้กระทั่ง กอนซาโล่ อิกัวอิน ที่เพิ่งย้ายเข้ามาได้ไม่กี่วัน
เพลย์เมกเกอร์เบลเยียมก็ออกมายอมรับว่า เขามีความคิดที่จะลาทีมไปเช่นกัน และกำลังตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตอยู่
ซาร์รี่บอกว่า ไม่กลัวเรื่องการถูก โรมัน อับราฮิโมวิช เจ้าของทีมปลดออกจากตำแหน่ง เพราะงานโค้ชเป็นงานที่เสี่ยงจะตกงานตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่ก็อดกังวลกับสภาพทีมตอนนี้ไม่ได้ เพราะเปลี่ยนจากทีมที่เคยเล่นเกมเยือนได้ดีกว่าเกมในบ้าน แต่ตอนนี้เล่นในบ้านได้ดีขึ้น แต่กลับเล่นเกมเยือนได้ย่ำแย่
การตกลงมาอยู่อันดับ 6 ของลีก ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ทิ้งห่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 9 แต้ม และอยู่สูงกว่าอาร์เซน่อลมาตลอด ทำให้สถานการณ์ของเชลซีเหนื่อยและหนักมากกว่าเดิม ไม่เคยมีผู้จัดการทีมคนไหนในยุคที่อับราฮิโมวิชเป็นประธานสโมสรได้ทำงานต่อไป ถ้าเชลซีไม่จบท็อปโฟร์ของพรีเมียร์ลีก
หรือแม้แต่การได้แชมป์ลีกก็ไม่ได้การันตีว่ากุนซือคนนั้นจะได้อยู่ทำทีมต่อในฤดูกาลหน้า
เชลซียังคงวงเวียนอยู่ในวัฏจักรแบบเดิม เปลี่ยนโค้ช นักเตะหมดใจ ปลดโค้ช และเปลี่ยนโค้ชใหม่ อาจจะมีแชมป์บอลถ้วยอย่างเอฟเอคัพ ลีกคัพ ติดมือบ้าง แต่ถ้าเทียบกับเงินที่ทุ่มไป นับว่าไม่คุ้มค่า
ซาร์รี่ยังมีเกมหนักๆ ติดต่อกันรออยู่ เป็นการลุ้นเข้ารอบต่อไปในฟุตบอลถ้วย 3 รายการ ยูโรป้าลีก 2 นัด กับ มัลโม่, เอฟเอคัพกับแมนฯยู, และลีกคัพ รอบชิงชนะเลิศที่จะเจอกับแมนฯซิตี้อีกรอบ
ถ้าทยอยตกรอบไปในช่วงนี้ แทบจะการันตีได้เลยว่าเขาจะอยู่ทำงานในถิ่นสแตมฟอร์ดบริดจ์ได้ไม่จบฤดูกาล แต่ถึงจะทำได้ดีขึ้น ก็ยังไม่กล้าบอกว่าจะได้อยู่ต่อ
งานของซาร์รี่เสี่ยงตลอดเวลาอย่างที่เขาบอกจริงๆ
