| ผู้เขียน | Stivie T |
|---|---|
| เผยแพร่ |
“หงส์แดง” ลิเวอร์พูล กลายเป็นทีมอังกฤษทีมสุดท้าย ที่ตบเท้าตามเพื่อนๆ เข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายของยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ
เกมนั้นต้องบอกว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานมาสเตอร์พีซของพวกเขา แม้ว่าตลอดฤดูกาลที่ผ่านมา ผลงานเกมเยือนในถ้วยยุโรปจะเข้าขั้นห่วยแตก (แพ้รวด 3 เกม) แต่ครั้งนี้พวกเขาสามารถเอาชนะอีกหนึ่งยอดทีมอย่าง “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค ไปได้ถึง 3-1 ไม่ใช่ใครจะทำกันได้ง่ายๆ แน่นอน
เจอร์เก้น คล็อปป์ ก็ได้ตอกหน้านักวิจารณ์หลายคน ที่บอกให้ลิเวอร์พูลทิ้งถ้วยยุโรป เพื่อไปมุ่งเน้นในพรีเมียร์ลีก เพราะยืนยันแล้วว่าจะ “เหมาสอง” นะครับ
แถมนี่ยังเป็นการตัดตอนทีมจากเยอรมนี ไม่สามารถเข้ามาเล่นในรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2005-06 เลยทีเดียว เพราะรอบที่ผ่านมา ทีมอังกฤษ เจอทีม เยอรมนี ถึง 3 คู่ แล้วก็เป็นอังกฤษที่เข้ารอบมาได้หมดเลย
ทำให้สรุป 8 ทีมจากยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปีนี้ เป็นอีกครั้งที่ทีมจากแดนผู้ดี กลับมาผงาดเป็นเจ้าแห่งยุโรปได้อีกครั้ง หลังเข้ารอบกันมาครบครันทั้ง 4 ทีม เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีเลยทีเดียว
ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาเข้ามากันครบ 4 ทีม ต้องย้อนไปฤดูกาล 2008-09 ซึ่งปีนั้นต้องเรียกว่า “บิ๊กโฟร์” ของพรีเมียร์ลีก มารายงานตัวกันครบครัน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล, “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี และ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล
ส่วนปีนี้ ก็เปลี่ยนจากเชลซีกับอาร์เซน่อล เป็น “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ แทน
อย่างไรก็ตาม หากย้อนไปในปี 2008-09 นั้น บทสรุปกลับกลายเป็น “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า ที่ผงาดขึ้นคว้าแชมป์ไปครองได้อย่างยิ่งใหญ่
มาในครั้งนี้ 4 ทีมที่เหลือ นอกจากทีมจากอังกฤษ ก็ยังคงมีชื่อของบาร์เซโลน่า ที่เป็นตัวแทนจากสเปน อยู่เช่นเดิม พ่วงด้วย “ม้าลาย” ยูเวนตุส จาก อิตาลี, ปอร์โต้ จากโปรตุเกส และ อายแอ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม จากเนเธอร์แลนด์
เชื่อว่าแฟนบอลพรีเมียร์ลีก คงไม่อยากให้ทั้ง 4 ทีมรีบจับมาเจอกันในรอบหน้าสักเท่าไหร่ เพราะไม่งั้นเราอาจจะได้เห็น 4 ทีมอังกฤษ ทะลุถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายพร้อมๆ กันก็ได้
หรือเจอกันก็ดี เผื่อจะการันตีมีทีมถึงหลุดถึงรอบรองชนะเลิศก็ไม่เลว
แต่ที่แน่ๆ นาทีนี้คงมีแต่คนอยากเจอปอร์โต้แน่นอน (ฮา)
