เกรียนเขียนบอล : งานโคตรยาก

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดน บาร์เซโลน่า บุกมาเชือดถึงโอลด์ แทรฟฟอร์ด 1-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีม นัดแรก ทั้งๆ ที่เกมสู้ได้ บี้กันอย่างสนุก แพ้แค่ดวงเพราะประตูที่บาร์ซ่าทำได้ เป็นการทำเข้าประตูตัวเองของ ลุก ชอว์ แต่ถ้ามองสถิติอื่นๆ ต้องบอกว่าแมนฯยูอาการน่าเป็นห่วง

ตลอดทั้งเกม ถึงจะสู้ได้ แต่ทีมปีศาจแดงยิงไม่เข้ากรอบเลยแม้แต่ครั้งเดียว ยิงไม่เข้ากรอบ 7 ครั้ง ประสิทธิภาพในเกมรุกถือว่าต้องปรับปรุง แต่เกมโดยรวมที่แดนกลางอย่าง สก็อตต์ แมคโทมิเนย์, เฟร็ด, ปอล ป๊อกบา ช่วยกันเก็บกวาด อิวาน ราคิติช, เซร์คิโอ้ บุสเก็ตต์ และ อาร์เธอร์ รวมทั้งแนวรุกอย่าง ลิโอเนล เมสซี่, หลุยส์ ซัวเรซ ได้ค่อนข้างอยู่หมัด เป็นสิ่งที่ต้องได้รับคำชม

โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ กุนซือแมนฯยูยังเอ่ยปากชมว่า 3 ประสานในแผงมิดฟิลด์ทำหน้าที่ได้เยี่้ยมยอด โดยเฉพาะแมคโทมิเนย์ที่พัฒนาตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่อายุยยังน้อย แต่ก็รับมือเกมใหญ่ระดับนี้ได้อย่างดี

Advertisement

จริงๆ แล้วถ้ามองตัวนักเตะและฟอร์มของทั้งสองทีมก่อนเจอกัน บาร์ซ่าดูดีกว่าชัดเจน ความมั่นใจของซัวเรซและเมสซี่ที่ยิงกระจายกันมาในลีกอย่างต่อเนื่อง และไม่แพ้ใครในรายการอย่างเป็นทางการถึง 16 นัดติดต่อกันแล้ว ยังไม่แพ้ใครในบ้านตลอดซีซั่น ส่วนแมนฯยูถือว่าฟอร์มลุ่มๆ ดอนๆ หลังจากแต่งตั้งโซลชาร์เป็นกุนซือถาวร

บอสโอเล่รู้ดีว่าเกมหน้าเป็นงานที่หนักมากที่จะต้องไปยิงมากกว่า 1 ประตูที่คัมป์นู เพราะเล่นในบ้านยังไม่มีโอกาสยิงเข้ากรอบ เกมเยือนในสนามความจุ 1 แสนที่นั่ง ประตูในการเป็นทีมเยือนที่ทีมเจ้าบุญทุ่มตุนไว้ นักเตะที่กำลังใจดี เรียกได้ว่าได้เปรียบว่าก่อนจะเตะแมตช์แรกที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดหลายเท่า

ความพ่ายแพ้ต่อบาร์ซ่าคารัง ทำให้แมนฯยูแพ้เกมในบ้านของรอบน็อกเอาท์ แชมเปี้ยนส์ลีก 3 นัดติดต่อกันแล้ว ฤดูกาลที่แล้วในรอบ 16 ทีม แพ้ เซบีญ่า 1-2 และแพ้ ปารีส แซงต์แชร์แมง 0-2 และมาแพ้บาร์ซ่า 0-1 ถือเป็นการแพ้ร็อบน็อกเอาท์ 3 นัดคาบ้านติดครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แต่บรรดานักเตะและทีมสต๊าฟต่างมั่นใจจะผ่านเข้ารอบได้ โดยเอาแรงบันดาลใจจากบุกไปกระซวกเปแอสเช 3-1 ผ่านเข้ารอบนี้มาได้

แต่ปาฏิหาริย์ไม่อนุญาตให้ใครใช้เปลืองขนาดนั้น จึงน่าจะต้องพึ่งพาความสามารถของตัวเองเป็นหลักไว้ก่อน แก้ไขปัญหาที่เจอจากเกมแรกให้ได้

แอชลีย์ ยัง ถูกแฟนบอลรุมจวกอย่างหนัก เพราะการเปิดบอล 11 ครั้งของเขา ไม่เข้าเป้าเลยแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนแดนหน้าอย่าง มาร์คัส แรชฟอร์ด, โรเมลู ลูกากู จะทำลายปราการหลังบาร์ซ่าได้อย่างไร เพื่อส่งบอลเข้าไปก้นตาข่ายให้ได้ อีกเรื่อง คือ แมนฯยูเป็นทีมที่ทำเข้าประตูตัวเองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของแชมเปี้ยนส์ลีก รวม 8 ประตู และถ้าย้อนไปในเกมแพ้วูล์ฟส์ 1-2 เมื่อไม่กี่วันก่อน คริส สมอลลิ่ง ก็ทำเข้าประตูตัวเองมาก่อนแล้ว โซลชาร์ต้องเรียกความมั่นใจและสมาธิของกองหลังกลับมาให้ไวที่สุด

แมตช์กับเปแอสเชอาจจะน่าจดจำ แต่ลูกากูก็ออกมาเตือนเพื่อนร่วมทีมว่า เปแอสเชกับบาร์ซ่าเป็นคนละทีม และบาร์ซ่าก็มีประสบการณ์ในเวทียุโรปมากกว่าเปแอสเชหลายเท่าตัว ดังนั้นจึงต้องเตรียมตัวให้ดีและพกความมั่นใจในเกมที่คัมป์นูให้มากกว่าที่เป็นอยู่

การเจอกันในแมตช์สอง มีความสำคัญกับแมนฯยูมากจริงๆ เพราะถ้าเข้ารอบได้ โอกาสจะได้สิทธิไปเตะแชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า ในฐานะแชมป์เก่ายังมีอยู่ แต่ก็ยากพอๆ กับการลุ้นท็อป 4 ในพรีเมียร์ลีก อย่างไรก็ตามเชื่อว่า โซลชาร์อยากจะทำให้ได้ทั้ง 2 เป้าหมาย คือ การมีแชมป์ติดมือและจบท็อป 4 ให้ได้

แต่ถ้ามองกันด้วยความเป็นกลางแล้ว แค่เป้าใดเป้าหนึ่งยังยาก พอๆ กับเข็นภูเขาขึ้นครกเลยทีเดียว

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image