สุดสัปดาห์นี้ การแข่งขันกอล์ฟหญิงแอลพีจีเอทัวร์จะเป็นการดวลวงสะวิงในรายการ แอลเอ โอเพ่น ที่ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 25-28 เมษายน
รายการนี้เพิ่งจัดเป็นปีที่ 2 แต่ก็มีความสำคัญกับวงการกอล์ฟบ้านเราตรงที่แชมป์เก่านั้นคือ “โปรโม” โมรียา จุฑานุกาล โปรสาวมือ 20 ของโลก ซึ่งคว้าแชมป์นี้เป็นแชมป์อาชีพรายการแรกในชีวิต
โปรโมร่วมแข่งขันแอลพีจีเอทัวร์ครั้งแรกเมื่อปี 2013 เป็นนักกอล์ฟสไตล์คล้ายๆ กับ ลิเดีย โค หรือ ปาร์ก อินบี อดีตมือ 1 ของโลก คือมีความแน่นอนแม่นยำ อาจไม่มีลูกลุยหวือหวา แต่มีความสม่ำเสมอมาทดแทน และมักไม่ค่อยพลาดอะไรเสียหาย
ด้วยมาตรฐานที่ดีสม่ำเสมอทำให้โปรโมคว้ารางวัลนักกอล์ฟหน้าใหม่ยอดเยี่ยมแห่งปี หรือ “รุกกี้ ออฟ เดอะ เยียร์” ของแอลพีจีเอทัวร์ปี 2013 ไปครอง และได้รับการคาดหมายจากกูรูกอล์ฟว่าจะก้าวมาเป็นแชมป์ของทัวร์ได้ในอนาคตอันใกล้
อย่างไรก็ตาม เมื่อน้องสาว “โปรเม” เอรียา จุฑานุกาล เข้ามาเล่นในแอลพีจีเอทัวร์เต็มตัวในอีก 2 ปีถัดมา ด้วยพรสวรรค์และสไตล์การเล่นที่ดุดันน่าตื่นตาตื่นใจ ทำให้โปรเมกลายเป็นที่จับตามองของทั้งแฟนกอล์ฟและบรรดาสื่อในฐานะคลื่นลูกใหม่มาแรง
ปัจจุบันโปรเมคว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ไปแล้ว 10 รายการ เป็นแชมป์เมเจอร์ 2 รายการ และเคยขึ้นมือ 1 โลกใน 3 ช่วงเวลา รวม 23 สัปดาห์
ช่วงที่โปรเมโชว์ฟอร์มโดดเด่นและโปรโมยังไม่มีแชมป์ติดมือ แม้ว่าผลงานจะดีสม่ำเสมอขนาดไหน ก็ยังไม่พ้นต้องอยู่ในเงาของน้องสาว
ก่อนถึงศึกแอลเอ โอเพ่น ปีที่แล้ว โปรโมเคยหวุดหวิดจะคว้าแชมป์ได้หลายครั้ง ซึ่งรวมถึงศึกเมเจอร์ เอเอ็นเอ อินสไพเรชั่น ปี 2018 ซึ่งเธอคว้าอันดับ 8 ไปครอง
กระทั่งประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ที่ลอสแองเจลิสเมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว โปรโมจึงได้รับเครดิตอย่างที่ควรจะเป็นเสียที
แชมป์ดังกล่าวยังส่งให้พี่น้องจุฑานุกาลเป็นพี่น้องคู่ที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ได้ทั้งคู่ ต่อจาก อันนิก้า-ชาร์ล็อตต้า ซอเรนสตัม ก่อนที่จะมีคู่ที่ 3 ตามมาคือ เจสซิก้า-เนลลี่ คอร์ด้า โดยคู่พี่น้องอเมริกันคู่หลังนั้นมาแรงแซงโค้ง เนื่องจากเนลลี่คว้าแชมป์ไปแล้ว 2 รายการ ทำให้เป็นคู่พี่น้องคู่แรกของทัวร์ที่คว้าแชมป์ได้มากกว่า 1 รายการทั้งคู่
สำหรับโปรโมนั้น ตั้งแต่คว้าแชมป์รายการแอลเอ โอเพ่น ปีที่แล้วได้ ก็สามารถติดอันดับท็อป 20 ของรายการต่อๆ มาได้ถึง 14 ครั้ง เฉพาะปีนี้อย่างเดียว ลงเล่นไป 8 รายการ ติดท็อป 20 ถึง 6 ครั้งเข้าไปแล้ว โดยสัปดาห์ล่าสุดไปแข่ง ล็อตเต้ แชมเปี้ยนชิพ ที่ฮาวาย คว้าอันดับ 9 ร่วมมาครอง
เช่นเดียวกับที่ผ่านๆ มา สไตล์ของพี่น้องจุฑานุกาลนั้นแตกต่างกัน โปรโมมีมาตรฐานที่ดี ผลงานอาจไม่หวือหวา แต่สม่ำเสมอกว่า ขณะที่น้องสาวบทจะดีก็ไปสุด กวาดทั้งแชมป์และรางวัลคราวละหลายถ้วย แต่บทจะแย่ก็มักจะหลุดไปดื้อๆ แบบไม่มีลุ้นเช่นกัน
รอน ซีรัก กูรูกอล์ฟหญิงชื่อดังบอกว่า หนึ่งในความท้าทายในการเล่นกอล์ฟอาชีพนั้น คือการเรียนรู้ที่จะอ้าแขนรับความสำเร็จโดยไม่ปล่อยให้เรื่องพวกนี้มาทำให้ตัวเองเสียสมาธิตลอดเส้นทางการเล่นหลังจากนั้น ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่โค้ชจิตวิทยาของ วิชั่น 54 อย่าง ลีน แมร์ริออตต์ และ เพีย นิลส์สัน คอยให้ความช่วยเหลือและชี้แนะพี่น้องจุฑานุกาลอยู่
แมร์ริออต์กล่าวว่า เวลาให้คำแนะนำนักกีฬา จะวางแนวคิดให้แต่ละคนแตกต่างกันไป โดยใช้คำจำกัดความที่เหมาะสมกับแต่ละคน ซึ่งกรณีของโปรโมคือ MY54 หมายถึงการอยู่กับสิ่งที่มี ทำในสิ่งที่เวิร์กสำหรับตัวเอง ไม่ไปขวนขวายหาสิ่งอื่นนอกเหนือไปจากที่มีอยู่
ขณะที่พี่น้องจุฑานุกาลต่างคนต่างจัดการเรื่องแนวทางการเล่นของตัวเอง เมื่อมาอยู่ในสนาม ต่างฝ่ายต่างก็เป็นทั้งคู่แข่งและกำลังใจที่ดีของกันและกันอย่างที่เคยเป็นมาเสมอ
ตอนที่โปรเมกวาดรางวัลยอดเยี่ยมทุกรางวัลในงานใหญ่ปลายปีของแอลพีจีเอทัวร์เมื่อปีที่แล้ว เมื่อพิธีกรถามว่า ความทรงจำที่ดีที่สุดตลอดปีที่ผ่านมาคืออะไร โปรเมตอบพร้อมรอยยิ้มว่า “วันที่พี่สาวคว้าแชมป์แอลพีจีเอทัวร์ครั้งแรกค่ะ” เรียกเสียงปรบมือกึกก้องจากแขกในงาน
คำพูดนี้ไม่ได้เกินเลยแม้แต่น้อย เพราะใครที่ติดตามการแข่งขันแอลเอ โอเพ่น เมื่อปีที่แล้ว คงจำภาพตอนที่โปรเมร้องไห้สวมกอดพี่สาวหลังพัตสุดท้ายลงไปได้เป็นอย่างดี แม้แต่โปรโมยังบอกว่าวันนั้นน้องสาวร้องไห้หนักกว่าตัวเองเสียอีก
ถึงตรงนี้ พี่น้องจุฑานุกาลมีความท้าทายครั้งใหม่ ให้ไล่ตามพี่น้องคอร์ด้า เป็นพี่น้องคู่ที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่ต่างคว้าแชมป์แอลพีจีเอได้มากกว่า 1 ครั้ง
หรือถ้าเด็ดกว่านั้น สุดสัปดาห์นี้ โปรโมเกิดคว้าแชมป์ได้ขึ้นมา ก็จะกลายเป็นพี่น้องคู่แรกที่คว้าแชมป์รายการเดียวกันได้ 2 สมัย (โปรเมคว้าแชมป์ คิงส์มิลล์ แชมเปี้ยนชิพ ได้ในปี 2016 และ 2018)
เป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ที่ต้องจารึกชื่อโปรสาวชาวไทยเอาไว้!
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
