อายแอ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม กำลังอยู่ในช่วงการลุ้นทริปเปิลแชมป์สมัยที่ 2 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร สถานการณ์ตอนนี้พวกเขาเป็นทีมจ่าฝูงของเอเรดิวิซี่ หรือลีกสูงสุด ที่แต้มเท่ากับ พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น และเหลือการแข่งขันเพียง 2 นัดเท่านั้น เข้ารอบชิงชนะเลิศ เคเอ็นวีบีคัพ หรือเอฟเอคัพ รอพบกับ วิลเล่ม ทเว และล่าสุดบุกถอนขน ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบรองชนะเลิศ แมตช์แรก กำความได้เปรียบไว้ในมือก่อน
ทริปเปิลแชมป์ครั้งแรกและครั้งเดียวที่อายแอ็กซ์ทำได้ ต้องย้อนไปเมื่อฤดูกาล 1971-1972 หรือเมื่อ 47 ปีที่แล้ว และถ้าลูกทีมของ อีริก เทน ฮาก ทำได้ อายแอ็กซ์จะกลายเป็นสโมสรแห่งที่ 2 ของยุโรปที่คว้าทริปเปิลแชมป์ได้ 2 สมัย เทียบเท่ากับ บาร์เซโลน่า
แนวทางการทำทีมของอายแอ็กซ์ตั้งแต่อดีต คือ การสร้างฐานนักเตะเยาวชนให้ยิ่งใหญ่ หลังจากนั้นก็จะส่งผลดีต่อสโมสรเอง และแนวทางนั้นก็เห็นผลชัดเจนมาทุกยุคทุกสมัย ความสำเร็จของฤดูกาล 1994-1995 เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน ช่วงเวลานั้นอายแอ็กซ์หักด่านทีมใหญ่ไปคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยนคัพ หรือยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ด้วยนักเตะจากอคาเดมีหลายต่อหลายคน โรนัลด์ และ แฟรงก์ เดอ บัวร์, เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์, เอ็ดก้าร์ ดาวิดส์, คลาเร้นซ์ ซีดอร์ฟ, แฟร้งก์ ไรจ์การ์ด, แดนนี่ บลินด์, มาร์ค โอเวอร์มาร์ส, แพทริก ไคลเวิร์ต
เมื่อประสบความสำเร็จจนถึงจุดสูงสุดกับอายแอ็กซ์แล้ว นักเตะเหล่านั้นก็ทยอยกันออกไปค้นหาความยิ่งใหญ่ใหม่ๆ กับยอดทีมทั่วยุโรป เม็ดเงินจากการขายซุปเปอร์สตาร์ออกไป ถูกนำกลับมาใช้สร้างนักเตะฝีเท้าดีเสริมอคาเดมี เพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จออกไปอีก
นักเตะชุดปัจจุบันก็กำลังอยู่ในเส้นทางเดียวกัน คือ โดดเด่นในวันที่อายุยังน้อย เฟรนกี้ เด ยอง เพลย์เมกเกอร์คนสำคัญ วัย 21 ปี มัทโธจ์ส เด ลิกต์ กองหลังกัปตันวัย 19 ปี ดอนนี่ ฟาน เดอ บีก ตัวรุกวัย 22 ปี ผู้ยิงประตูชัยดับสเปอร์สในเกมแรก ดาวิด เนเรส ปีกฟอร์มแรง อายุเพียง 22 ปี แคสเปอร์ โดลเบิร์ก กองหน้าเนื้อหอม ก็อายุ 22 ปีเท่านั้น อายุเฉลี่ยของนักเตะชุดนี้อยู่ที่ 23.9 ปี ถือว่ายังมีเวลาในการใช้งานอีกเกือบ 10 ปี
หลังจบฤดูกาลนี้ แข้งตัวหลักอีกหลายคนจะต้องโบกมือลาทีมไปอย่างแน่นอน เฟรนกี้ เด ยอง ย้ายไปบาร์เซโลน่าแน่นอนแล้ว ส่วนกัปตันมัทโธจ์ส เด ลิกต์ ที่เนื้อหอมไปทั่วยุโรป คงต้องไปปักหลักกับทีมยักษ์ใหญ่สักทีมในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า สตาร์คนอื่นๆ ก็มีข่าวพัวพันกับทีมในลีกใหญ่ๆ ทั้งในอังกฤษ อิตาลี และสเปน
กุนซืออายแอ็กซ์เป็นคนที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก คือ อีริก เทน ฮาก โค้ชวัย 49 ปี ที่ฟื้นความยิ่งใหญ่ให้กับสโมสรในช่วงเวลาที่เข้ามาทำงานเพียง 2 ปีเท่านั้น ชื่อชั้นในลีกใหญ่ๆ อาจจะยังไม่มี ก่อนหน้านี้เคยเป็นผู้ช่วยของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในช่วงที่คุม บาเยิร์น มิวนิก และแยกย้ายกันไปทำให้เขาเลือกกลับมารับงานในเนเธอร์แลนด์บ้านเกิดกับ อูเทร็คต์ พาทีมคว้าโควต้าลุยยูโรป้าลีกในเวลา 2 ปี ก่อนจะถูกดึงตัวมาอายแอ็กซ์
ตลาดนักเตะซัมเมอร์นี้ ยอดทีมจากแดนกังหันลมน่าจะได้กำไรจากการขายนักเตะอย่างเป็นกอบเป็นกำ แต่กลับไม่เคยทุ่มเงินมหาศาลไปซื้อนักเตะมาเสริมทีมอย่างที่ยักษ์ใหญ่ลีกอื่นทำ โดยใช้กำไรไปสอยแข้งประสบการณ์สูงในลีกใหญ่มาเป็นแกนของทีมแทน ดาลีย์ บลินด์ แบ๊กเด็กปั้นที่ดึงตัวกลับมาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นูซาน ทาดิช กองหน้าเซอร์เบียที่ได้ตัวไปจาก เซาแธมป์ตัน เข้ามาช่วยขับเคลื่อนเด็กๆ และเติมเต็มทีมได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ความสำเร็จในแนวทางของอายแอ็กซ์ ทำให้คิดไปว่า ทำไมบาร์เซโลน่าที่มีลา มาเซีย ศูนย์ฝึกเยาวชนที่ดังกระฉ่อนโลก ปั้นยอดนักเตะมามากมาย โดยเฉพาะ ลิโอเนล เมสซี่ หรืออคาเดมีของแมนฯยู ที่เคยสร้างคลาสออฟ 92 ชุดทริปเปิลแชมป์ปี 1999 กลับยังไม่สามารถเทียบชั้นอคาเดมีของอายแอ็กซ์ได้ เพราะยังคงทุ่มเงินมหาศาลเพื่อซื้อนักเตะกันอยู่ทุกปี ทั้งๆ ที่มีดาวรุ่งเดินเบียดกันอยู่ในทีมเยาวชนหรือทีมสำรองตั้งเยอะแยะ
อายแอ็กซ์ยังคงเป็นต้นแบบของการสร้างความสำเร็จ มากกว่าการซื้อความสำเร็จของโลกฟุตบอลแบบที่ไม่มีใครปฏิเสธได้
ติดตามข่าวเด็ดกีฬาดัง ทาง Line@ มติชนกีฬา (@matisport) คลิกเลย
