คอลัมน์เกรียนเขียนบอล : ยืดอกเข้าไว้

จบลงไปแล้วสำหรับฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่นับว่าเป็นฤดูกาลหนึ่งที่สนุกที่สุดในประวัติศาสตร์ก็ได้ กับการลุ้นแชมป์จนถึงนัดสุดท้ายของทั้ง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล

แล้วก็กลายเป็นทีมอันดับ 1-2 ที่มีแต้มรวมกันสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อพวกเขาเก็บกันไปรวมถึง 195 คะแนน ด้วยกัน

ต้องแสดงความยินดีและชื่นชมกับลูกทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่สามารถรักษาแชมป์เอาไว้ได้เป็นทีมแรกในรอบ 10 ปี หลังจากที่ผ่านมาแชมป์มีการเปลี่ยนมือมาตลอดในทุกปี ไม่มีใครอยู่ยืนยงได้แม้แต่ทีมเดียว

กวาร์ดิโอล่าถือว่าสร้างมาตรฐานที่สูงขึ้นมาอีกระดับหนึ่งในการคว้าแชมป์ เพราะปีก่อนที่เป็นแชมป์ก็เก็บไป 100 แต้ม ปีนี้การเป็นแชมป์ของพวกเขาก็ต้องทำถึง 98 แต้มจึงจะเป็นแชมป์ได้

Advertisement

กุนซือแดนกระทิง ยอมรับเลยว่านี่เป็นแชมป์ที่ยากที่สุดสำหรับตัวเขานับตั้งแต่คุมทีมมา ก็แหงหล่ะ ปกติถ้าเก็บได้สัก 90 คะแนน มันน่าจะเป็นแชมป์ก่อนสัก 3-4 นัดได้ ไม่ต้องมานั่นลุ้นกันจนถึงนัดสุดท้ายแบบนี้นี่

ส่วนทางฝั่งหงส์แดงที่ผิดหวังกับการรอคอยแชมป์ไปอีก 1 ปี แต่ก็ต้องบอกว่านี่คือฤดูกาลที่พวกเขาไม่ชนะในถ้วยรางวัล แต่เชื่อว่าชนะใจคนที่ดูฟุตบอลทุกคน ย้ำ!คนดูฟุตบอล ไม่ใช่พวกเกรียนดูบอลนะ

พวกเขาเก็บได้ 97 คะแนน ตลอดทั้งฤดูกาลแพ้เพียงแค่เกมเดียว ทำสถิติแต้มรองแชมป์สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ แบบที่ว่าสามารถเป็นแชมป์ได้ทุกฤดูกาลยกเว้น 2 ฤดูกาลหลัง

Advertisement

ครองรางวัลต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นดาวซัลโวร่วม ที่ 2 จาก 3 คนที่ได้รับรองเท้าทองคำนั้น คือ ซาดิโอ มาเน่ และ โม ซาลาห์ ที่รับรางวัลนี้เป็นปีที่สองติดต่อกัน หรือถุงมือทองคำ ก็เป็นของ อลิสซอน เบ็คเกอร์ นายทวารบราซิเลี่ยน ที่เปิดตัวซีซั่นแรกอย่างยอดเยี่ยม เก็บไป 21 คลีนชีท เสียแค่ 22 ประตู น้อยที่สุดในลีกยุโรปอีกด้วย

หรือจะตำแหน่งนักเตะยอดเยี่ยมของพรีเมียร์ลีก ก็เป็นของ เวอร์กิล ฟาน ไดค์ ที่นับเป็นรางวัลส่วนตัวที่ 2 ของเขา หลังจากก่อนหน้านี้คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของสมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (พีเอฟเอ) ไปก่อนแล้ว และยังมีเจ้าหนู เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ทำสถิติใหม่ของกองหลังที่ทำแอสซิสต์ได้สูงสุดต่อ 1 ฤดูกาลอีกด้วย (13 ประตู)

ดังนั้นขอออกตัวในฐานะแฟนหงส์แดงเลยว่า นี่คือฤดูกาลที่ไม่มีอะไรต้องเสียใจ ทีมทำได้ดีที่สุดในแบบที่นึกภาพไม่ออกเหมือนกันว่าจะดีไปกว่านี้ได้อย่างไร หลายๆ คนนึกย้อนกลับไปบ่นว่าทำไมนัดนั้นไม่เป็นอย่างนั้น อย่างนี้ แต่ในสถานการณ์ตอนนั้นที่แข่งอยู่ เราคงไม่ได้คิดว่ามันจะมาถึงจุดจบแบบนี้หรอก

ฉะนั้นยืดอกเข้าไว้ ยังเหลืออีก 1 เกมที่จะเป็นการตัดสินฤดูกาลนี้ นั่นก็คือนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ตอนนี้ก็เซฟร่างกายแล้วมาใส่ให้เต็มกันอีกนัดหนึ่ง

ส่วนถ้าใครจะเดินมาล้อ ก็เปิดตารางคะแนนให้ดู แล้วถามว่าทีมคุณอยู่อันดับไหนกันเหรอ

เชิดใส่แม่งไปเลย!!!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image